สวัสดีค่ะ ห่างหายจากการรีวิวท่องเที่ยวไปน้านนน นานนน.. ตอนนี้ก็ได้ฤกษ์ได้ยามมาเขียนซักที ^^
ทริปที่เราจะไปเที่ยวกันวันนี้ก็คือ จังหวัดเชียงรายค่ะ จุดประสงค์หลักของทริปนี้ก็คือการ “กิน” ค่ะ 555 ช่วงเวลาที่ผ่านมา มัวแต่ไปเขียนรีวิวร้านอาหาร ในแบบฉบับของ #กิตยาพาชิม ซะเยอะ
เพราะฉะนั้น รีวิวนี้ กิตยาก็จะพาไปเที่ยว และ ไปชิมกันที่จังหวัดเชียงรายค่ะ! ว่าแล้ว ก็ไปกันเล้ยยยย ~~
เริ่มต้นออกเดินทางกัน ณ สนามบินดอนเมือง โดยพี่สิงโตลำนี้ค่ะ ได้มาในราคาโปรเปิดเส้นทางใหม่ 390 บาท/คน/เที่ยว ราคาดี้ดีค่ะ เก็บเงินไว้ไปกินได้อีก~
นั่งเครื่องประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็มาถึงสนามบินแม่ฟ้าหลวง เชียงรายค่ะ รับกระเป๋าเรียบร้อย เดินออกมารอแท๊กซี่ที่เรียกจาก app Grab Taxi ที่หน้าสนามบิน เดินทางไปที่พักกันค่ะ
ที่พักสำหรับทริปนี้เราพักที่ B2 Chiang Rai Boutique & Budget Hotel (โรงแรมบีทูเชียงราย)
ทำเลโรงแรมนี้ดีมากๆ ค่ะ อยู่ในตัวเมือง ใกล้ถนนคนเดิน ใกล้หอนาฬิกา ราคาต่อคืนประมาณ 599 บาท (ห้องซูพีเรีย)
ลองเช็คราคาที่พักออนไลน์ในเชียงรายกับ Traveloka ได้ที่ https://www.traveloka.com/th-th/hotel/thailand/region/chiang-rai-10011104 มีตัวเลือกโรงแรมและที่พักหลายแบบค่ะ
เก็บของเรียบร้อย พร้อมออกตะลุยทริปกินกันเลยค่าาาา เย้!
**ทริปวันแรกของเราจะเดินทางโดยแท๊กซี่ค่ะ เพราะไปถึงช่วงบ่ายแล้ว โปรแกรมที่จะไปอยู่ย่านๆ ในเมือง แล้วพอดีพี่คนขับแท๊กซี่คันแรกจากสนามบินเค้าให้เบอร์โทรเอาไว้เรียกแท๊กซี่ของกลุ่มแท๊กซี่ในเชียงราย โทรเรียกปุ๊บ ไม่เกิน 5 นาทีแท๊กซี่ก็มารับถึงหน้าโรงแรมเลยค่ะ ราคาแท๊กซี่ที่นี่ ถ้าไปแค่ย่านในเมืองไม่แพง สะดวกดีด้วยค่ะ (ค่าโทรเรียก +20 บาท)
ร้านแรกที่จะพาไปกันในวันนี้ ร้านนี้เลยค่ะ
“Melt in Your Mouth”
ร้านนี้หลายๆ คนน่าจะรู้จักกันดี เพราะร้านเค้าชื่อดังในเชียงราย ร้านสวย บรรยากาศดีมากๆ อาหาร-ขนมก็อร่อยด้วยค่ะ
บรรยากาศภายในร้าน สวยมากๆ เลย มุมไหนก็น่าถ่ายรูปไปหมดเลยค่ะ
ร้านติดริมแม่น้ำกกค่ะ ทำให้บรรยากาศดีเข้าไปใหญ่ ถ้ามากันเป็นคู่ ดินเนอร์ริมน้ำอากาศเย็นๆ งี้ อะหือ..โรแมนติกน่าดูเลยค่ะ >.<
เมนูอาหารที่เราทานกันไปวันนี้ค่ะ เห็นร้านตกแต่งสไตล์ยุโรปแบบนี้ เมนูอาหารเหนือมีให้เลือกเยอะมากเหมือนกันนะคะ
เราสั่งเป็นลาบหมูคั่วพร้อมข้าว กับ พาสต้าฮังเล > รสชาติดีเลยหล่ะค่ะ (เราเป็นคนเชียงใหม่อยู่แล้ว) ถือว่ารสชาติดั้งเดิมแบบเหนือแท้ๆ อร่อยค่ะ
ส่วนของหวานที่แนะนำและขึ้นชื่อของที่ร้านเค้าคือ Pana Cotta ค่ะ ทานกับเบอรี่รวมสดๆ
โดยรวมร้านนี้ดีงามทั้งบรรยากาศ อาหาร และของหวานเลยค่ะ ติดอย่างเดียวที่ราคาแพงไปนิด (แลกกับบรรยากาศ ความเว่อวังสวยงามของร้านอะไรแบบนี้)
อีกซักรูปก่อนกลับ >.< ร้านเค้าสวยจริงๆ
หลังจากนั้นก็ไปเดินย่อยซักหน่อยค่ะ ที่หอนาฬิกา ช่วงเย็นพอดี แสงสวยมาก ^^
ท้องย่อย (ยังไม่ทันดี) เราก็ตะลอนกินต่อ 555 ร้านนี้อยู่ใกล้ๆ กับหอนาฬิกาค่ะ
“เชียงรายรำลึก”
ร้านนี้เพื่อนที่เชียงรายแนะนำให้ไปนั่งช่วงค่ำๆ อารมณ์เป็นร้านแฮงค์เอ้าของวัยรุ่นที่เชียงรายอะไรแบบนี้ อะ เราก็ลองดู จะได้นั่งรอดูการแสดงไฟของหอนาฬิกาด้วย
แต่เอาจริงๆ .. ไม่แน่ใจว่าใช่ที่เพื่อนแนะนำจริงๆ เหรอ? อารมณ์ประมาณร้านอาหาร เปิดเพลง ธรรมดาๆ ทั่วไปซะมากกว่าค่ะ
อาหารก็ไม่ได้อร่อยมากมายอะไร แถมราคาแพงอีก .. ถ้าไม่ได้มาเที่ยวอารมณ์อยากดริ้งมากก็ไม่แนะนำดีกว่าค่ะ -.-“
อาหารที่สั่งไปค่ะ ออกแนวกินเล่น.. ดูเมนูแนะนำจาก app Wongnai แนะนำเมนูเกี๊ยวห่อชีสกันเยอะ พอสั่งมาของจริงคือหาชีสไม่เจอ >.< จะมีตัวไก่ทอดซอสครีมส้ม ที่ยังพอโอเค รับได้
ด้วยความไม่สุด และ ท้องยังมีที่ว่าง ก็เลยเดินไปหาของกินต่อค่ะ 555 เดินไปเชียงรายไนท์บาร์ซ่ากันค่ะ แน่นอนค่ะ มาเชียงรายไนท์บาร์ซ่าต้องไม่พลาดมาทานร้านนี้~
“ป้าอ้วน บัวลอยมือถือ”
เห็นคนยืนรอกันเยอะตรงหัวมุมซ้ายทางเข้าตลาดไนท์บาร์ซ่า ใช่ค่ะ ตรงนั้นเลยยย ป้าอ้วนตัวจริง เสียงจริง ^^
บัวลอยป้าอ้วนจะเป็นบัวลอยมะพร้าวอ่อนค่ะ ที่แปลกอีกอย่างคือใส่งาคั่วลงไปด้วย กะทิหอมกลิ่นงา ราคาไม่แพง อร่อยจริง จนซื้อใส่ถุงกลับไปกินที่โรงแรมอีกด้วยค่ะ 555 สายกินหนักมากก >.<
กินบัวลอยป้าอ้วนไป เดินเล่นในตลาดไปค่ะ ไนท์บาร์ซ่าที่นี่ไม่ใหญ่มาก เดินแป๊บเดียวก็ทั่วแล้วค่ะ (ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหาร ของขายไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ค่ะ)
แล้วก็พุงกาง จบทริปวันที่ 1 ไปเพียงเท่านี้ค่า..
มาต่อเช้าวันที่ 2 กัน วันนี้เราจะเดินทางไกลค่ะ ก็เลยเช่ารถจากร้าน บิ๊ก-ใหญ่ รถเช่าเชียงราย (tel.พี่บิ๊ก 083-3191288) ค่าเช่าวันละ 1,000 บาทค่ะ พี่บิ๊กเอารถมาส่งให้ถึงที่โรงแรมเลยค่ะ
ก่อนออกตะลุยโลกกว้าง เราต้องเติมน้ำมันก่อนค่ะ (หมายถึงคนนะคะ 555) จัดไปอาหารเช้าวันนี้
“กาแฟรถเหลือง”
ร้านอาหารเช้าชื่อดัง(อีกละ) ตามเก็บให้หมดค่ะ ร้านที่ว่าชื่อดัง เราต้องไม่พลาด ร้านนี้เปิดเฉพาะตอนเช้านะคะ ขายอาหารเช้าโดยเฉพาะ .. พิกัดอยู่ใกล้ๆ หอนาฬิกา รถเหลืองเด่นชัด หาไม่ยากค่ะ
ไข่กระทะอร่อยดีค่ะ ไข่จะทอดแบบมีไข่แดงเยิ้มๆ ส่วนขนมปังปิ้งจะมีหมูยอ+กุนเชียงข้างใน เมนูนี้อร่อย สั่งเบิ้ลไปอีก
ท้องอิ่มเรียบร้อยแล้ว ออกเดินทางกันได้ค่ะ เป้าหมายแรกวันนี้ที่จะไปคือวัดร่องขุ่น.. แต่ไปอ่านรีวิวเจอว่ามีร้านกาแฟสวยๆ ตรงก่อนถึงวัด ก็เลยอดไม่ได้ที่จะแวะไปซักนิด (ห๊ะ.. กินอีกล้ะ! ที่กินไปตะกี้คืออะไร? 555)
“Ryokan Cafe”
ร้านกาแฟ (มีอาหารขายนิดหน่อย) ตกแต่งร้านบรรยากาศญี่ปุ่นมากๆ ร้านน่ารักค่ะ มุมสวยๆ ถ่ายรูปมีเยอะ แล้วที่เด็ดคือฝั่งตรงข้ามของร้านจะเป็นทุ่งกว้างๆ ช่วงที่ไปจะเป็นทุ่งนากับทุ่งดอกปอเทืองค่ะ
ในส่วนของอาหาร ขนม เครื่องดื่ม รสชาติกลางๆ ค่ะ ไม่แบบอื้อหืออ แต่ก็ไม่แย่ ทานได้ (แกก็ทานได้ตลอดแหละ แหมมม 555) เรื่อยๆ ชิวๆ ชมวิวสโลไลฟ์ไป อะไรงี้
ชิวกันได้ที่แล้ว ก็เข้าสู่ประเด็นหลัก ประเด็นแรกวันนี้ซักที เราไปแวะชมความอลังการณ์กันที่วัดร่องขุ่นค่ะ ไปถึงตอนเที่ยงพอดี เค้าปิดพัก อดเข้าไปดูข้างในเลยค่ะ -.-
เดินเล่นกันพอทั่วแล้ว ไปกันต่อค่ะที่ ไร่บุญรอด (Singha Park) พอจอดรถที่ลานจอดรถแล้ว เดินเข้าไปที่ประชาสัมพันธ์จองที่นั่งขึ้นรถฟาร์มทัวร์กันก่อนเลยค่ะ
ช่วงเวลารอรถรอบต่อไป ก็จะมีคาเฟ่เค้ก+กาแฟ, ร้านของฝาก, ร้านชาบุญรอดให้ชิม หรือจะเดินไปถ่ายรูปเล่นที่สิงห์บนเนินฝั่งตรงข้ามรอก็ได้ค่ะ
ได้เวลาขึ้นรถชมไร่บุญรอดกันค่ะ จุดแรกที่จอดจะเป็นส่วนของไร่ชา กว้างมาก สวยมาก ให้เวลาถ่ายรูปกันตามอัธยาศัย (10-15 นาทีต่อจุดจอดค่ะ)
จุดจอดที่ 2 เป็นจุดให้อาหารสัตว์ (ยีราฟ, ม้าลาย, กวาง, กระทิง)
จุดจอดที่ 3 จะเป็นศูนย์รวมกิจกรรมต่างๆ ค่ะ มีจักรยานให้เช่าปั่นเล่นกันในไร่ หรือจะเล่นโหนซิปไลน์ ปีนเขา ก็สามารถจองกันได้ที่นี่เลยค่ะ
รถฟาร์มทัวร์จะไปจอดทั้งหมด 3 จุดแล้ววนกลับมาที่หน้าฟาร์มที่จุดประชาสัมพันธ์เหมือนเดิมค่ะ หลังจากนั้นใครจองเล่นกิจกรรมอะไรไว้ หรือจะเข้าไปทานอาหารที่ร้านภูภิรมย์ ก็สามารถเอารถส่วนตัวขับเข้าไปได้ค่ะ
เพราะว่าเราสายกิน .. แน่นอนค่ะ เราจึงเลือกไปทานอาหารค่ะ!!
“ภูภิรมย์ : Bhu Bhirom”
ร้านอาหารในไร่บุญรอด.. จะอยู่บนยอดเนินไร่ชาค่ะ ร้านใหญ่ กว้างมาก รอบร้านจะเห็นวิวไร่ชาแบบ 360 องศาเลย
อาหารที่สั่งทั้งหมดค่ะ.. จะบอกว่าอร่อยทุกอย่างเลยค่ะ เมนูที่แนะนำว่าไม่ควรพลาดคือ ยำยอดชาสดทอดกรอบค่ะ ใบชาทอดทีละช่อ กรอบอร่อย , แกงมัสมั่นไก่ก็เข้มข้นมาก , ปีกไก่ทอดน้ำปลาก็ทอดได้กรอบพอดี คะแนนน้อยสุดในทั้งหมดนี้ตกที่ข้าวผัดไส้อั่วค่ะ ข้าวแห้งๆ ไปนิด ได้รสไส้อั่วน้อยไปหน่อย
แต่โดยรวมถือว่าโอเคมากๆ ค่ะ ราคารวมแล้วก็ถือว่าไม่แพง จะติงอยู่อย่างเดียวที่ว่าร้านอาจจะกว้างมากไป แต่พนักงานไม่ค่อยเยอะ เลยบริการไม่ค่อยทั่วถึงเท่าไหร่ค่ะ
อิ่มท้องแล้ว ขาลงจากร้านภูภิรมย์ จะมีจุดถ่ายรูปกับวิวไร่ชาสวยๆ ค่ะ แวะถ่ายกันก่อนนิดนึงเนาะ
กลับเข้ามาในตัวเมืองช่วงค่ำๆ ก็ไปเดินถนนคนเดินวันเสาร์ซักหน่อยค่ะ ระยะถนนคนเดินค่อนข้าวยาวเหมือนกัน มีทั้งของพื้นเมือง, เสื้อผ้าแฟชั่น และโซนของกิน (โซนนี้เยอะมากๆ ค่ะ)
แล้วก็จบทริปกินวันที่ 2 ไว้ที่เมนูนี้ ~~
ต่อเช้าวันที่ 3 กันเลยค่ะ ตื่นมาอย่างแรกที่ต้องทำเลย.. อะไรคะ? ถูกต้องค่ะ กินค่าาาา 555
อาหารเช้าวันนี้จัดหนักกันไปเลย อาหารเหนือแท้ๆ
“น้ำเงี้ยวป้าสุข”
ใช่แล้วค่า ขนมจีนน้ำเงี้ยวแสนอร่อย เป็นอาหารเหนือที่เราชอบที่สุดเมนูนึงเลย ที่ร้านป้าสุขจะมีทั้งหมู และ เนื้อให้เลือกค่ะ
นี่คือเมนูอาหารเช้าวันนี้.. อาจจะดูจัดจ้าน แต่จริงๆ แล้วไม่เผ็ดนะคะ น้ำเงี้ยวได้หมูเยอะมาก ส่วนเมนูขวาบนคือข้าวกั้นจี้น (ข้าวเงี้ยว) คือเอาข้าวมาคลุกกับเลือดหมู ใส่เนื้อหมูนิดหน่อย แล้วเอามาห่อใบตองนึ่งค่ะ รสชาติจะจืดๆ นิดนึง แต่อร่อยนะคะ
ส่วนซ้ายล่างคือหนังปอง.. คล้ายๆ แคปหมู แต่จะชิ้นใหญ่และหนากว่า ขนมจีนน้ำเงี้ยวแท้ๆ ต้องกินกับหนังปองค่ะ (แล้วต้องใช้หนังยางดีดถุงให้แตกเหมือนในรูปด้วยนะคะ) ฟินนน..
เช้านี้เติมน้ำมันแล้วก็ออกเดินทางได้ค่ะ~ วันนี้เราจะไปเที่ยวไร่ชากัน (เมื่อวานก็ไปไร่ชามา วันนี้ไปอีกแล้ว)
“ไร่ชาฉุยฟง : Choui Fong Tea House”
อันนี้ไร่ชาจริงๆ เลยค่ะ มีแต่ชาอย่างเดียว ทางค่อนข้างไกลนิดนึง แต่รับรองเลยว่าวิวสวยแน่นอนนน แถมชาอร่อยด้วยยย ฮี่ฮี่
ได้เวลากินอีกแล้ว ขึ้นชื่อว่าทีเฮ้าส์ ก็จัดกันไปให้ชาไปทุกอย่างเลยค่ะ ชาเขียวปั่น ชาไทยเย็น เค้กชาเขียว เครปเค้กชาเขียว ปอเปี๊ยะยอดชา ยำใบชาทอดกรอบ.. กินกันจนหน้า(เป็น)ชากันเลยทีเดียว
เครื่องดื่มกับของหวานรสชาติโอเคเลยค่ะ แต่ส่วนของอาหารเราว่าไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ ยำใบชาเหมือนเค้าหยิบไปชุปแป้งทอดทีละกำ มันก็เลยกรอบไม่ทั่ว แป้งนิ่มๆ ยังเหลือเยอะเลย แล้วก็น้ำยำออกเปรี้ยวนำ ถ้าเทียบกับภูภิรมย์ ฉุยฟงแพ้ราบคาบเลยค่ะเมนูนี้ ส่วนปอเปี้ยะก็พอได้ ไม่กรอบมาก แต่มันมาก -.-
ทางลงจากไร่ ก็มีจุดจอดให้ถ่ายรูปอีกเหมือนกันค่ะ .. มุมนี้มีป้ายชื่อไร่ให้ถ่ายกันเน้นๆ
ระหว่างทางกลับเข้าไปในตัวเมืองแวะขับรถผ่านมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงซักหน่อยค่ะ เป็นมหาลัยที่สวยและร่มรื่นมากๆ ตั้งแต่ทางเข้าก็สวยแล้วอ่ะ บรรยากาศร่มรื่น น่าเรียนมากๆ ค่ะ
เดินทางมาไกล .. หิวอีกละ >.<” แวะทานเค้ก (อีกล้ะ!) กันอีกซักร้านค่ะ
“Eat Sleep Cafe & Bed”
คาเฟ่ตกแต่งน่ารักๆ แนวฮิปสเตอร์ มีสวนติดริมน้ำด้วย แล้วที่นี่ก็มีที่พักด้วยให้บริการด้วยนะคะ แต่วันนี้เราแวะมาทานเค้ก ดื่มชากันเบาๆ
บรรยากาศที่นั่งภายในร้าน.. น่ารักเนอะ ^.^
ส่วนรสชาติของเค้กร้านนี้อร่อยค่ะ เนื้อเค้กเข้มข้นดี ทานกับชาร้อนๆ เข้ากันได้ดี้ดีค่ะ
ชิวกันเสร็จแล้ว ก็กลับเข้าที่พัก.. แปปๆ เอ้าเย็นละ ตัดภาพไปมื้อเย็นกันเลยดีกว่าเน้อะ (บอกแล้วว่าทริปตะลอนกิน กินหนักมากจริงๆ 555)
“ร้านหลู้ลำ เชียงราย”
เย็นนี้เราจะมาจัดเต็มอาหารเหนือกันที่ร้านนี้ค่ะ ดูใน app Wongnai ร้านนี้ติดอันดับต้นๆ เราก็เลยต้องมาลองกันซักหน่อย
เมนูที่ทานไปในเย็นนี้… อันดับ 1 ขอมอบให้ผัดแหนมใส่ไข่ (อ้าว ไม่ใช่อาหารเหนือที่ตั้งใจจะมาทานซะงั้น) รองลงมาก็ลาบหมูคั่วค่ะ เครื่องมาเต็มมาก แล้วก็ใส่เครื่องในมาเยอะมากๆ ด้วย เมนูที่ได้คะแนนน้อยสุดสำหรับเรามื้อนี้กลายเป็นแกงฮังเลซะงั้น.. รู้สึกว่ารสชาติยังไม่เข้มข้นเท่าไหร่ค่ะ ออกเปรี้ยวนำนิดๆ ตัวหมูไม่ค่อยเปื่อยมาก
ทานเสร็จแล้วมาเดินย่อยกันซักหน่อยค่ะ วันอาทิตย์ที่เชียงรายก็มีถนนคนเดินอีกนะคะ แต่จะเป็นอีกถนนนึงชื่อว่า สันโค้งถนนคนม่วน ของที่ขายส่วนใหญ่จะคล้ายๆ กับถนนคนเดินวันเสาร์ บางร้านนี่ร้านเดิมเลยแอบจำได้ เผื่อใครพลาดวันเสาร์ ก็ยังมีวันอาทิตย์อีกวันมาเดินกันได้ค่ะ
เมนูสุดท้ายก่อนนอนสำหรับคืนนี้ ข้าวหลามค่ะ ข้าวหลามทางเหนือเค้าจะฝานเอาไม้ไผ่ออกตอนมันสุกแล้ว .. ไม่ได้ทานมานานมาก ถ้ามาหน้าหนาวได้ทานข้าวหลามร้อนๆ นี่อย่างฟินแน่นอนค่ะ
มาถึงวันที่ 4 วันสุดท้ายแล้ว ~ รีวิวยาวมากกก จะมีใครอ่านมาถึงวันสุดท้ายไหมน้า >.<
มื้อเช้าวันนี้เรามาหาซุปร้อนๆ ทานกันดีกว่าค่ะ
“สหรส”
เมนูเด็ดของร้านนี้ก็คือ เกาเหลาเลือดหมู ใส่ผักจูจิงฉ่ายค่ะ พิกัดร้านจะอยู่แถวๆ หอนาฬิกาถัดจากร้านกาแฟรถเหลืองมานิดเดียวค่ะ
น้ำซุปอร่อยมาก.. หมูก้อนๆ ก็อร่อยมากก.. เครื่องในไม่มีกลิ่นคาวเลย อร่อยมากกก..
อิ่มหนำกันไป 1 ร้านแล้ว เช้านี้เรามีสองต่อค่ะ ไปกินกาแฟกันต่อน้ะๆ
“Polar Boulangerie and Patisserie”
ร้านกาแฟ + อาหารเช้า + เบเกอรี่โฮมเมดน่ารักๆ ใจกลางเมืองเชียงรายค่ะ
เป็นร้านห้องแถว 2 ห้อง ไม่ใหญ่มากค่ะ แต่ตกแต่งน่ารักโทนสีน้ำตาล มีเบเกอรี่โฮมเมดทำกันใหม่ๆ ในตู้ มีชาสมุนไพรแบบซองน่ารักๆ ให้ซื้อกลับไปชงดื่มที่บ้านด้วย
เมนูขึ้นชื่อของร้านนี้คือชูครีมค่ะ (Choux Cream) เนื้อแป้งเหนียวนุ่ม ตัวครีมก็สดหอม ไม่หวานมาก ไม่เลี่ยน อร่อยมากๆ ค่ะ ส่วนตัวเค้กช็อคโกแลต (Choc Truffle) ก็เข้มข้นมาก อร่อยมากเช่นกัน
อิ่มได้แล้วเนอะ กินไปเยอะซะขนาดนั้น .. ได้เวลาเที่ยวบ้าง วันนี้สุดท้ายก่อนกลับ แวะไหว้พระกันซักหน่อยค่ะ เริ่มที่วัดงำเมือง กราบสถูปพระเจ้าเม็งรายมหาราช
แล้วเดินไปต่อที่วัดพระธาตุดอยจอมทอง บูชาเทียนสืบดวงชะตา สะเดาะห์เคราะค่ะ
แล้วก็ใกล้ๆ เดินไปสักการะเสาสะดือเมืองเชียงราย (เสาหลักเมือง) ด้วย
อิ่มบุญกันไปแล้ว เรามาอิ่มท้องกันต่อกับมื้อเที่ยงที่ร้านนี้กันเลยค่ะ
“ราชโยธา”
ร้านขนมจีน มีทั้งน้ำเงี้ยว น้ำแกงเขียวหวาน มีหมูสะเต๊ะ ฯลฯ เอาเป็นว่าเมนูหลากหลายมากๆ ค่ะ รวมถึงมีโซนคาเฟ่ ขายกาแฟด้วยนะ บรรยากาศร้านใหม่ สะอาด สบายๆ ค่ะ
ขนมจีนร้านนี้อร่อยกลางๆ เป็นขนมจีนแบบดัดแปลงจากดั้งเดิมมากกว่า มีดีตรงที่เมนูหลากหลาย ของหวานแบบไทยๆ ก็หลากหลาย แล้วก็ตกแต่งสวย ราคาไม่แพงด้วยค่ะ
ก่อนกลับกรุงเทพฯ ช่วงบ่ายแก่ๆ ขอแวะอีกซักร้านนึงเป็นร้านสุดท้าย ร้านนี้เป็นร้านติดอันดับ 1 ที่ต้องไปเลยค่ะ ก็เลยเอามาปิดท้ายทริปซักหน่อย ให้แบบว่าจบทริปอย่างบริบูรณ์ ^o^
“ชีวิตธรรมดา : Chivit Thamma Da”
ร้านอาหาร และ คาเฟ่ในสวน ตกแต่งแบบอังกฤษ (ใช้ของตกแต่งเป็นของเก่าอังกฤษสวยๆ ทั้งร้านเลยค่ะ) ในสวนคือร่มรื่นมากๆ ต้นไม้หนา คือดีงามมากจริงๆ
ที่ร้านมีเมนูอาหารน่าทานเยอะมาก แต่ท้องเราค่อนข้างจะเต็ม.. >.< ไหวแค่ของหวาน เลยจัดชิ้นนี้มา เมนูที่เกือบทุกคนแนะนำ Thammada Banoffee อื้มมมม.. มันดีงามควรทำตามจริงๆ ค่ะ ส่วนเครื่องดื่ม บอกได้เลยว่าเข้มข้นสุดๆ
และแล้วก็หมดเวลาตะลอนชิมแล้วค่ะ ได้เวลากลับไปเผชิญโลกความจริงที่กรุงเทพฯ T-T
ทริปนี้จบไปแล้ว สิ่งที่ได้กลับมาคือน้ำหนัก 555 กินเยอะมากกก แต่ก็ฟินมากกกเช่นกันค่ะ เพราะถูกปาก ถูกใจเกือบทุกร้านเลย
หวังว่ารีวิวทริปกิน กิน กินที่เชียงรายนี้ จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกท่านไม่มากก็น้อยนะคะ
วันนี้ลาไปก่อนแล้ว ทริปหน้าจะไปกิน กิน กินที่ไหน จะเก็บมารีวิวอีกแน่นอนค่ะ
บ้ายย บายย ♡♡♡
You must be logged in to post a comment.