*~Korea:อันนยองเกาหลี~* เจิมบทความแรก รีวิวแรก : ทริปจองข้ามปี เที่ยวเอง กินอิ่ม นอนอุ่นในกรุงโซล,,, [Part 1]

Changdeokgung

˛.˛.˛.˛. อัพเดท – รีวิวเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง 2016 ˛.˛.˛.˛.
(ตอน1-2 เที่ยวในโซล > [Korea Winter 2016] -Part 1- | [Korea Winter 2016] -Part 2- )
(ตอน3 เที่ยวที่อินชอน-ซงโด > [Korea Winter 2016] -Part 3- )
(ตอน4 เที่ยวปูซาน > [Korea Winter 2016] -Part 4- )

~ – ~ – ~ – ~ – ~ – ~ – ~ – ~ – ~ – ~ – ~ – ~ – ~ – ~ – ~ – ~ – ~ – ~ – ~ – ~ – ~

ขอประเดิมบทความแรกใน nateetaste.com ด้วย รีวิวทริปเที่ยวเองไม่ง้อทัวร์ในกรุงโซล, เกาหลีใต้ ทริปนี้นะคะ

มือใหม่หัดรีวิว จะพยายามให้ดีที่สุดค้า เผื่อบางเนื้อหาจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนที่คิดจะไปเที่ยวเองแบบเราบ้างค่ะ >.<

ทริปนี้เป็นครั้งที่ 4 ที่ไปเยือนเกาหลีค่ะ แต่ละครั้งที่ไปจะเป็นเที่ยวเองทั้งหมด (คหสต.ไม่ค่อยชอบไปกับทัวร์ ชอบแบบงมเอง หลงเองมากกว่า ^^) แต่ละครั้งก็มีช่วงฤดู และ การเดินทางไปที่แตกต่างกันออกไปค่ะ

ทริปนี้เราไปช่วง Winter ค่ะ (ตั้งใจไปเจอหิมะเต็มที่เลย) เดินทางช่วง 8-12 มกราคม 2557 ค่ะ

เรามาเริ่มที่การเดินทางก่อน ทริปนี้เราเดินทางด้วยพี่หางแดง AirAsia X FLY-THRU บินอ้อมไปอ้อมมานิดหน่อยค่ะ จากดอนเมือง-กัวลาลัมเปอร์-อินชอน จริงๆ สารภาพเลยว่าด้วยความหน้ามืดตามัวแท้ๆ มีโปรหางแดงออกมา คิดว่าถูกแล้ว ก็เลยจองกันไป สนนราคาค่าตั๋วเครื่องบินข้ามปีอยู่ที่คนละ 9467 บาท (เพิ่งมารู้ทีหลังว่าค่าโหลดกระเป๋าของ FLY-THRU ต้องเสียสองต่อ เป็นค่าโหลด ดอนเมือง-กัวลาลัมเปอร์ แล้วก็ค่าโหลด กัวลาลัมเปอร์-อินชอนอีก)
สรุปยอดสุดท้าย ค่าตั๋ว 9467 + โหลดขาไป 20kg 1200 + โหลดขากลับ 25kg 1450 = 12117 บาท
จริงๆ แล้วราคานี้ก็คิด(มะโนเอาเอง) ว่าน่าจะไม่แพงแล้ว สำหรับเที่ยวเกาหลีฤดูนี้ แต่เสียอย่างเดียวจองแล้วรอบินข้ามปี และต้องยอมเหนื่อยบินหลายตุ๊บ และเวลาบินที่ยาวกว่าอีกนิดค่ะ

เริ่มที่สนามบินดอนเมือง ออกเดินทางวันที่ 8 มกราคม เวลา 4:20PM

Boarding Pass and Passport

ณ บนเครื่องสัญชาติมาเล แอบหิวนิดหน่อยค่ะ เลยสั่งมาลองชิมดู กับเมนู Pak Nasser’s Nasi Lemak สนนราคาอยู่ที่ 12 ริงกิต (จ่ายเงินไทยได้ค่ะ เค้าคิดมา 120 บาทถ้วน) รสชาติก็ถือว่าโอเคค่ะ ให้ผ่านอยู่

Pak Nassar's Nasi Lemak

พอไปถึงสนามบินกัวลาลัมเปอร์ (AirAsia จะลงที่ LCCT:Low Cost Carrier Terminal) ก็เดินเข้าอาคาร เลี้ยวเข้าโซน transit ไปต่อคิวเช็คเอกสาร สแกนกระเป๋าอีกรอบ แล้วไปรอต่อเครื่องได้เลยค่ะ แต่ขอบอกก่อนเลยว่า LCCT ไม่ประทับใจเราอย่างแรงเลย สถานที่ค่อนข้างสกปรก ไม่ค่อยมีอะไรให้ทาน แล้วมีให้ทานก็ไม่อร่อยด้วยค่ะ โดยเฉพาะห้องน้ำมีที่เดียว ต่อคิวกันยาว และสกปรกมากๆ  แต่ข้อดีก็ยังมีนิดนึงที่ยังมี Wifi ให้เล่นฟรีฆ่าเวลา

01:00AM ของวันที่ 9 มกราคม ได้เวลาขึ้นเครื่อง AirAsia X.. ที่ LCCT จะไม่มีต่องวงหรือขึ้นบัสใดๆ ทั้งสิ้นค่ะ เดินเท่านั้น ขาเข้าสวนมา ขาออกสวนไป ชุลมุนวุ่นวายกันใช้ได้เลย แล้วค่อยไปตรวจตั๋วตรงทางขึ้นบันไดเครื่องอีกที สภาพก็เลยต่อคิวยาวกันไปตามภาพ

Air Asia X , LCCT Airport

ถึงสนามบินอินชอนเช้า 08:20AM -9 องศา อากาศหนาวสมใจเลยค่ะ ผ่านตม. กันไปแล้ว ก็ไปรอกระเป๋า ออกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมลุยอากาศติดลบค่า!

Air Asia X, KUL-ICN Flight

ก่อนออกสนามบินแวะรับ Pocket Wifi ที่จองไว้จาก Easy Korea Wifi ก่อนค่ะ (ติด Social Network อย่างหนัก ไม่มีเน็ตอยู่ไม่ได้ >.<)
แนะนำให้รู้จักกันก่อนเผื่อเพื่อนๆ สนใจนะคะ Pocket Wifi จะเหมือนกับเรามี Wifi ส่วนตัวติดตามตัวเราไปทุกที่ค่ะ ไม่ต้องเปิดโรมมิ่งเหมาต่อวันให้เปลืองเงินมาก
ตัวในรูปนี้คือ LTE Online ซึ่งจะเป็นตัวที่ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า (แนะนำตัวนี้ถ้าทริปเราต้องออกไปนอกเมืองค่ะ) ค่าเช่าวันละ 290 บาท/500MB ค่ะ
จริงๆ มีอีกตัวคือตัว Egg Online ตัวนี้จะเป็น 4G ธรรมดา ใช้ได้ดีในย่านตัวเมืองโซลมากกว่าค่ะ ค่าเช่าวันละ 290บาท/Unlimited ค่ะ
เน็ตของเกาหลีเค้าเร็วและแรงมากจริงๆ ถ้าไปหลายๆ คนแนะนำให้เช่า 1 ตัวแล้วแชร์กันจะประหยัดเงินมากๆ ค่ะ ขากลับก็นัดเวลาส่งคืน เจ้าหน้าที่ก็จะมารอรับคืนที่เคาท์เตอร์เช็คอินเลยค่ะ ถ้าใครสนใจ search facebook : easykoreawifi.thai เลยจ้า

Easy Korea Wifi, LTE Pocket Wifi

เดินทางไปที่พักค่ะ ใช้บริการ Airport Limousine Bus สาย 6015 (เราพักที่ Namsan Guesthouse 4 อยู่ย่าน มยองดงค่ะ) ลงป้ายสุดท้ายเลย ชื่อป้าย Sejong Hotel (Myeong-dong stn.) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ ค่ะ
Airport Limousine Bus ส่วนตัวแล้วคิดว่าสะดวกกว่านั่งรถไฟฟ้าค่ะ เพราะขึ้นรถต่อเดียว ไม่ต้องแบกกระเป๋าขึ้นลงสถานีรถไฟ แต่ถ้าใครพักที่พักที่ไม่ต้องเปลี่ยนสถานีรถไฟมากก็ MRT ดีกว่าค่ะ เพราะจะใช้เวลาเร็วกว่านิดนึง
ค่าบริการคนละ 10000 วอน สามารถซื้อตั๋วได้ที่เคาท์เตอร์ตรงข้ามประตูทางออกผู้โดยสารขาเข้า D หรือ เดินไปที่ป้าย 5B:สาย 6015 แล้วจ่ายเงินสดตอนขึ้นรถก็ได้ค่ะ
**ตั๋วสีชมพูและฟ้าในรูป ฝั่งนึงเค้าจะเอาติดกระเป๋าเดินทางที่ฝากไว้ใต้ท้องรถค่ะ ต้องเก็บอีกส่วนนึงให้เจ้าหน้าที่ตอนรับกระเป๋าปลายทางด้วยค่ะ

Incheon Airport Limousine Bus

ถึงที่พักแล้วค่า Namsan Guesthouse 4 เดินทางจากป้าย Sejong Hotel ง่ายมากๆ เพียงเดินไปทางเดียวกับรถบัส ไปข้ามถนนที่หน้าร้าน Caffe Bene ไปฝั่งนัมซานทาวเวอร์ เดินไปทางโรงแรม Pacific Hotel ด้านหน้าโรงแรมมีแยกให้ไปทางขวามือ เดินขึ้นเนินไปนิดหน่อยก็จะเจอ Namsan 3 ต่อด้วย Namsan 2 และ Namsan 4 อยู่ใกล้ๆ กันค่ะ

Namsan Guesthouse 4 Map

อย่างที่เคยเกริ่นไปแล้วว่ารอบนี้เป็นรอบที่ 4 ในเกาหลี ทุกครั้งที่มาเกาหลีเราพักที่ Namsan ตลอดเลยค่ะ
ครั้งแรกและครั้งที่ 2 พักที่ Namsan 2
ครั้งที่ 3 และครั้งนี้ ที่สาขาใหม่ล่าสุดค่ะ Namsan 4
ที่เลือกที่นี่เพราะเดินทางไปไหนมาไหนสะดวก ไม่ไกลจาก MRT, ใกล้ย่านช้อปปิ้งมยองดง, ใกล้ N-Seoul Tower, ที่พักใหม่ สะอาด, พนักงานก็เป็นกันเองดีมากๆ ค่ะ แถมสาขา 4 นี้มีพนักงานคนไทยอยู่ด้วย มีอะไรก็สอบถามได้ น้องเค้าแนะนำเราดี อะไรๆ ก็ง่ายขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ

รวมภาพบรรยากาศโซนออฟฟิศชั้นล่างก่อนนะคะ ที่นี่มีบะหมี่ถ้วย น้ำร้อน น้ำเย็น กาแฟ ขนมปังให้บริการตลอดเวลาค่ะ (ไม่ใช่แค่มื้อเช้าด้วยนะคะ เริ่ดตรงนี้ ^^), มีคอมพิวเตอร์ ต่ออินเตอร์เนตเล่นได้, มีโทรศัพท์ Skype โทรกลับไทยฟรีด้วยค่ะ, มีครัวให้ทำอาหารได้, มีตู้เย็นส่วนรวมซื้อของมาแช่ได้เหมือนกันค่ะ

Namsan Guesthouse 4 Facilities

ห้องพักค่ะ เราพักที่ห้อง VIP2 สำหรับ 5 คน อยู่ชั้น 3 ค่ะ ในห้องกว้างขวางดีค่ะ พื้นเป็นฮีทเตอร์ อุ่นสบาย ในห้องก็จะมีผ้าเช็ดตัว ไดร์เป่าผม ทีวี ราวตากผ้าพร้อมไม้แขวนเสื้อ แล้วชั้น 3 นี้จะมีห้องครัวอีก 1 ห้องค่ะ มีตู้เย็น บะหมี่ ขนมปัง กาแฟ น้ำร้อน น้ำเย็น แล้วก็คอมพิวเตอร์อีก 1 ตัว ให้บริการตลอดเวลาเหมือนกันค่ะ

Namsan Guesthouse 4 VIP2

สุดท้ายก่อนจบเรื่องที่พัก Namsan 4 สาขาใหม่นี้จะมีห้องพักแบบ Dormitory ด้วยค่ะ แยกห้องชาย/หญิง และมีห้องน้ำรวมให้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเดี่ยวๆ พักแบบประหยัด แต่ก็สะดวกสบายดีค่ะ
ในรูปนี้ถ่ายมาเมื่อตอนมาพักครั้งที่ 3 ในแต่ละแคปซูลจะมีทีวี ปลั๊กให้ค่ะ แล้วก็มีตู้เก็บของแยกของแต่ละคนให้อีก เคยพักคราวก่อนก็นอนสบายดีค่ะ ไม่ต่างกับพักในห้องเลยค่ะ ถ้าไม่ซีเรียสอะไรมาก พักแบบนี้ก็ประหยัดค่าพักไปอีกเยอะเลยค่ะ

Namsan Guesthouse 4 Dormitory

หลังจากเก็บของ พักผ่อนซักครู่ก็เริ่มออกตะลุยได้แล้วค่า.. ^^
ก่อนอื่นกองทัพต้องเดินด้วยท้อง เลยต้องเติมพลังกันก่อนค่ะ ร้านแรกเลย

유가네 닭갈비 : ยูกาเน ทักคาลบี
เป็นร้านเฟรนไชส์เจ้านึงที่มีสาขาอยู่หลายๆ ที่มากค่ะ เมนูคือไก่ผัดกับน้ำพริกเกาหลี มีหลายสูตรแล้วแต่เราจะเลือก เช่นไก่อย่างเดียว ไก่กับปลาหมึก หรือ ไก่กับกุ้ง โดยที่เราจะสามารถเพิ่มพวกข้าว บะหมี่ เส้นอุด้ง หรือชีสเข้าไปในเมนูด้วยก็ได้ค่ะ
ที่ร้านจะมีบาร์สำหรับผักสลัด กิมจิ ผักดอง สามารถเติมได้ตลอดค่ะ
สถานที่: MRT สถานี Myeong-dong ทางออก 6 หรือ 7
พิกัดตามดาวสีชมพูในแผนที่เลยค่ะ:

Yoogane Dakgalbi Myeong-Dong Map

เราไปกัน 5 คน สั่งกันสองกระทะ กระทะละ 2 ที่ เพิ่มข้าว รวมราคาแล้วก็ประมาณ 25000 วอนค่ะ

Yoogane Dakgalbi Myeong-Dong

พออิ่มท้องเราก็พร้อมลุยค่า สถานที่แรกที่เลือกไปก็คือ..

창덕궁 : พระราชวังชางด๊อก
พระราชวังที่ได้ชื่อว่าเป็น “พระราชวันอันเป็นที่รักแห่งราชวงศ์โชซอน” มีส่วนของอุทยานฮูวอน หรือที่เรียกกันว่าสวนลับ (The Secret Garden) อยู่ด้านหลังพระราชวังด้วยค่ะ
ค่าตั๋วเข้าชม: ผู้ใหญ่ 3000 วอน | ปิดทุกวันจันทร์ค่ะ
สถานที่: MRT สถานี Anguk ทางออก 3 แล้วเดินตรงไปผ่าน 2 ซอยจะเจอพระราชวังทางด้านซ้ายมือ
พิกัดตามดาวสีชมพูในแผนที่เลยค่ะ:

Changdeokgung Map

ภาพพระราชวังโดยรวมค่ะ พระราชวังมีหลายโซน หลายส่วนมากๆ ค่ะ รวมถึงส่วนของสวนลับด้วย (ถ้าเข้าสวนลับต้องเสียเงินเพิ่มอีก) ถ้าจะดูให้ทั่วๆ ต้องใช้เวลาเยอะหน่อยนะคะ ^^

Changdeokgung

เดินกันพอทั่วแล้ว ก็มาต่อกันสถานที่ต่อไปค่า

북촌한옥마을 : หมู่บ้าน บุกชนฮานก
เป็นย่านหมู่บ้านที่มีบ้านเรือนแบบเกาหลีโบราณ ซึ่งจะมีหลายจุดที่ได้มุมมองสวยๆ แตกต่างกันออกไปค่ะ
สถานที่: MRT สถานี Anguk ทางออก 2 แล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ จนเจอ Family Mart แล้วข้ามถนนเข้าซอยเดินไปตามทางเรื่อยๆ เลยค่ะ
พิกัดตามดาวสีชมพูในแผนที่เลยค่ะ:

Bukchon Hanok Village Map

จะได้ภาพหมู่บ้านโบราณสวยๆ ตามรูปนี้เลยค่ะ .. เป็นบ้านที่ยังมีคนอาศัยอยู่จริงๆ ค่ะ จะมีป้ายบอกห้ามเราส่งเสียงดังอยู่เพื่อไม่เป็นการรบกวนผู้อาศัยในหมู่บ้านค่ะ เอาจริงๆ ค่อนข้างเดินไกลเหมือนกันกว่าจะไปถึงตรงจุดต่างๆ ที่เค้ากำหนดไว้ (มีประมาณ 9 จุด) ส่วนตัวเราคิดว่าสองจุดนี้สวยที่สุดแล้วค่ะ (ตามแผนที่ของ travel information คือจุดที่ 5 และ 6 ค่ะ)

Bukchon Hanok Village

ออกจากหมู่บ้านบุกชนก็เริ่มเย็นแล้วค่ะ เราไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกันนนน..

열봉찜닭 : ยอลบงจิมดัก
เมนูจิมดัก 1 ในอาหารเกาหลีที่มาแล้วไม่ควรพลาดชิมค่ะ เป็นเมนูไก่ต้มกับน้ำซีอิ้ว (ดูคล้ายๆ พะโล้บ้านเรา) แต่ใส่วุ้นเส้นเส้นหนึบๆ มันฝรั่ง แครอท และต้นหอมโรยหน้าค่ะ
สถานที่: MRT สถานี Hongik University ทางออก 9
พิกัดตามดาวสีชมพูในแผนที่เลยค่ะ:

Yeolbong Jjimdak Hongdae Map

ที่ร้านจะเสิร์ฟซุปไข่ (อร่อยมากๆ) กิมจิ และน้ำเปล่าให้ก่อนค่ะ เราสั่งจิมดัก (แบบไก่ไม่มีกระดูก) ขนาดสำหรับ 4 คน ดูในรูปเหมือนจะจานไม่ใหญ่ แต่เอาจริงๆ จานเบ้อเร้อเลยค่า
ร้านนี้จะมีความเผ็ดหลายระดับ (ในเมนูจะเป็นรูปไก่หน้าขาว/ระดับ 1 ไก่เหงื่อตก/ระดับ2 ไก่เหงื่อตกหลายเม็ด/ระดับ3 ไก่หน้าแดง)
ครั้งแรกที่เรามาเราสั่งแบบธรรมดา คือไม่เผ็ดเลย ปรากฎว่ามันเลี่ยนไปค่ะ คราวนี้เลยไม่พลาด สั่งเผ็ดระดับ 1 ถือว่าโอเคค่ะ มีจี๊ดนิดๆ ไม่เผ็ดมาก แต่มีรสชาติขึ้นค่ะ
แล้วก็มีข้าวไข่ปลาปั้นคลุกด้วยสาหร่าย อันนี้ก็อร่อยค่ะ

Yeolbong Jjimdak Hongdae

อิ่มแล้วก็เดินเล่นย่านฮงแดต่อค่ะ เนื่องจากสถานที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยฮงอิก เลยมีเด็กๆ นักศึกษาหนุ่มๆ สาวๆ เดินกันเยอะมากค่ะ มีร้านช้อปปิ้งเสื้อผ้า หมวก รองเท้าสวยๆ ราคาไม่แพงเยอะ ร้านอาหารน่าทานก็เยอะค่ะ นักช้อปไม่ควรพลาดย่านนี้จริงๆ ค่ะ

Hongdae Shopping Market

เดินช้อปกันจนเมื่อยแล้ว เราก็กลับที่พักกันค่ะ ขากลับผ่านร้านผลไม้ที่ขายในสถานีรถไฟ MRT มีสตอร์เบอร์รี่ลูกโตขาย ราคาไม่แพง ก็เลยสอยมากินเล่นก่อนนอนซักหน่อย สตอร์เบอร์รี่เกาหลีนี่หวานอร่อยจริงอะไรจริงค่า

Korean Strawberry

จบทริปวันแรกกันเพียงเท่านี้ค่า พักผ่อนนอนหลับ เก็บแรงไว้ทริปวันต่อไปค่ะ ^_^

 

ติดตามอ่านตอน 2 ได้ที่นี่ : ~KOREA:อันนยองเกาหลี~ ทริปจองข้ามปี เที่ยวเอง กินอิ่ม นอนอุ่นในกรุงโซล,,, [PART 2] (พระราชวังคยองบก – จตุรัสกวางฮวามุน – อนุสาวรีย์แม่ทัพอีซุนชิน – คลองชองกเยชอน)

ติดตามอ่านตอน 3 ได้ที่นี่ : ~Korea:อันนยองเกาหลี~ ทริปจองข้ามปี เที่ยวเอง กินอิ่ม นอนอุ่นในกรุงโซล,,, [PART 3:ตอนจบ] (สอนใช้แอพ Subway Korea – เกาะนามิ – ลอตเต้มาร์ท – ของกินที่มยองดง)