มาตะลุยเที่ยวในโซลกันต่อค่ะ หลังจากออกเดินทางมาแล้ว 2 วัน แรงเรายังมี เรายังเดินได้ดีอยู่ ฮี่ฮี่~
(ตามอีฟเที่ยวพาร์ทแรกได้ที่นี่ค่ะ > [Korea Winter 2016] -Part 1-)
พาร์ทสองนี้เราก็จัดเต็ม เที่ยวหนัก กินหนักกันเหมือนเดิม พร้อมแล้วหรือยังคะ? พร้อมแล้วก็ไปลุยกันเล้ยยยย!!
★*˛. Day 3˛.*★
เริ่มต้นวันที่สาม ด้วยอาหารเช้าแบบง่ายๆ ของเกาหลีค่ะ เดินไม่ไกลจากที่พักมาก ราคาถูก แถมอร่อยด้วย
천국이네김밥 (연남동) : ชอนกุกีเนคิมบับ Cheonguk Gimbap | ร้านอาหารตามสั่งราคาถู้กถูก
พิกัด : จากสถานี Hongik University station, ทางออก 2 เดินต่อประมาณ 400 เมตรค่ะ
*แอบแนะนำร้านมินิมาร์ทตรงทางผ่านไปร้านคิมบับหน่อยนึงค่ะ ร้านนี้มีขนม บะหมี่ หม้อ ช้อน ตะเกียบ โซจู สาหร่าย ผลไม้สด ทุกอย่างครบครันมาก แถมราคาไม่แพงด้วย ใครพักย่านฮงแดหรือยอนนัมจะซื้อของฝากแต่ไม่มีเวลาไปมาร์ทใหญ่ๆ อีฟแนะนำร้านนี้เลยค่ะ
เดินถัดจากร้าน GS25 ไปอีกนิดเดียวก็จะเจอร้านคิมบับ ร้านจะเป็นสีส้มโดดเด่นแบบนี้ทางขวามือเลยค่ะ
เมนูอาหารเช้าที่เรากินในวันนี้ ท้าดาาาาา~
นั่นก็คือคิมบับ(แบบถูกสุด) 1,500 วอน กับ ไข่ตุ๋น(มีข้าวให้ด้วย) 5,000 วอน
คือถูก และ คือดีมากค่ะ เครื่องเคียงก็จัดมาให้เยอะเลย แถมคิมบับทำให้ใหม่ๆ สดๆ ตรงหน้าร้านเลย อร่อยยย ^^
ทานอิ่มแล้วเราก็ไปตะลุยโลกกว้างกันเลยค่า ที่แรกที่จะไปในวันนี้ก็คือ….
북촌한옥마을 : บุกชนฮานกมาอึล Bukchon Hanok Village | หมู่บ้านสไตล์เกาหลีบุกชน
พิกัด : สถานี Anguk station, ทางออก 2 แล้วก็เดินยาวไป ยาวไปเลยค่ะ คราวนี้อีฟเดินยาวจากบุกชนไปจนถึงย่านซัมชองดงเลย เส้นทางก็จะตามในแผนที่ด้านล่างเลยค่ะ (ทั้งหมดนี้เดินไปประมาณ 2 กิโลได้ >.< ดีที่อากาศเย็น ก็เลยเดินได้เรื่อยๆ ไม่เหนื่อยมากเท่าไหร่ค่ะ)
ก่อนอื่นก็ไปแวะไปหยิบแผนที่หมู่บ้านโบราณทั้งหมดในย่านบุกชนได้ที่ information ตรงหัวมุมแยกแรกก่อนเลยค่ะ จากนั้นอีฟเลือกไปทางแยกขวามือก่อน โซนนี้จะมีร้านค้า และเกสท์เฮ้าส์แบบบ้านเกาหลีโบราณอยู่เยอะเลยค่ะ แล้วค่อยข้ามมาเดินฝั่งซ้ายมือ (โซนนี้อีฟว่านักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะกว่ามากค่ะ) แล้วเราก็จะเดินลงไปย่านซัมชองดงต่อได้เลยค่ะ
แต่ละจุดได้มุมมองออกมายังไง อีฟเก็บรูปมุมสวยๆ มาฝากค่ะ
ช่วงเช้าเราก็เดินกันไปอย่างเต็มเหนี่ยวที่บุกชน ได้เวลาเติมพลังกันค่ะ มื้อเที่ยงวันนี้เราจัดเมนูสุดหรูกันที่นี่เลยค่ะ
북막골 : พุกมักโกล Bugmaggol | ซี่โครงยักษ์ตุ๋นตามรอยสามแฝด
พิกัด : ร้านนี้อยู่ปลายยอดของย่านซัมชองดงเลยค่ะ เดินจากหมู่บ้านบุกชนได้ตามแผนที่ทางด้านบน หรือจะเดินจากวังเคียงบก (สถานีเคียงบกกุง ทางออก4) หรือ เดินจากอินซาดง (สถานีอันกุก ทางออก1) แล้วเดินไปทางซอยข้างวังค่ะ ใครไม่อยากเดินไกล สามารถขึ้นรถเมล์สาย 종로11 คันสีเขียวตรงป้ายรถเมล์ตามพิกัดในแผนที่ได้เลยค่ะ ลงป้ายที่ 4 แล้วเดินต่อไปอีกนิดจะเจอทางเข้าร้านเลย หรือใครจะเดินชมวิว ร้านน่ารักๆ ตามทางย่านนี้ก็เดินได้เพลินๆ ค่ะ (จากปากทางวังเคียงบกไปร้าน ประมาณ 1 กิโลนิดๆค่ะ)
ทางเข้าร้านจะเห็นป้ายสามแฝดชัดแจ๋วแบบนี้เลยค่ะ เลี้ยวตามลูกศรเข้าไปเลย~
แน่นอนค่ะ เมนูที่เราจะมาทานในวันนี้ก็ต้องเป็นซี่โครง(เนื้อ)ตุ๋น ซี่โครงยักษ์ ตามรอยเด็กๆ สามแฝด เมนูนี้มีชื่อว่า 구석기갈비 : กุซอกกีคัลบี มี 2 ขนาดค่ะ ขนาดกลาง (중) 39,000 วอน และ ขนาดใหญ่ (대) 63,000 วอน!! อะหืออ ราคาไม่ใช่เล่นๆ เลยเนอะ
อีฟสั่งขนาดกลางมาค่ะ.. มาแล้วววว ^o^
อันนี้คือขนาดกลางนะคะ ได้ซี่โครงชิ้นใหญ่ๆ 2 ชิ้นค่ะ พร้อมกับเครื่องเคียงหลายอย่าง สลัดผักด้วย
คราวนี้อีฟสั่งข้าวทานเพิ่มด้วยค่ะ 1 ถ้วยก็พอ (เรามีประสบการณ์มาแล้วว อย่าสั่งข้าวเยอะ)
สรุปร้านนี้.. ถึงจะติ่งหรือไม่ติ่งสามแฝด แต่ถ้าเป็นสาวกเนื้อแล้ว อีฟก็แนะนำว่าควรมาลองค่ะ เพราะเนื้อตุ๋นนิ่มมาก และ อร่อยมากกกกกก (ถึงราคาจะแรงไปนิ้ดดด >.<)
อีฟทำรีวิวร้านนี้แบบละเอียด (รูปเยอะกว่านี้) ไว้ที่รีวิวตามรอยสามแฝด แทฮัน มินกุ๊ก มันเซ เพื่อนๆ สามารถตามไปอ่านเพิ่มได้ที่นี่เลยค่ะ > รีวิวกิน-เที่ยวตามรอยแฝดสาม แทฮัน มินกุ๊ก มันเซ @ โซล-ซงโด-ปูซาน
ทานมื้อเที่ยงอิ่มแล้ว ก็เดินเล่นย่านซัมชองดงกันซักนิดค่ะ .. ย่านนี้จะมีร้านค้าสวยๆ เยอะมากทั้งสองข้างทางเลย มีทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ร้านเครื่องสำอางค์ แต่ละร้านก็ตกแต่ง มีอาคารสวยๆ สไตล์ของตัวเอง น่าถ่ายรูปไปหมดเลยค่ะ
ตะกี้ทานของคาวไปแล้ว.. เรามาต่อของหวานกันซักนิดค่ะ ฮิฮิ
고디바 삼청점 : Godiva | ไอติมช็อคโกแลตขั้นเทพ
พิกัด : เดินจากร้านซี่โครงพุกมักโกลลงมาประมาณ 200 เมตรค่ะ ร้านจะอยู่ฝั่งตรงข้าม Starbucks
เมนูอันเลื่องชื่อที่ต้องมาลองวันนี้ก็คือ.. Godiva Soft Ice Cream Double Chocolate (고디바 소프트 아이스크림 더블 초콜릿) สนนราคาที่ 5,900 วอนค่ะ
ไอติมช็อคโกแลตเข้มข้ม เนื้อเนียน สมราคาตามแบรนด์เค้าเลยค่ะ
เมนูไอศกรีมมีออกรสใหม่มาด้วยค่ะ โคนสีแดงนั้น Godiva Soft Ice Cream Double Chocolate Framboise 6,300 วอนค่ะ
อิ่มหนำกันแล้วก็ตะลุยต่อค่ะ ขากลับอีฟนั่งรถเมล์สาย 종로11 สีเขียวคันเล็กลงไปที่วังเคียงบกค่ะ แล้วก็เดินต่อไปอีกนิด ก็จะเป็นสถานที่ต่อไปของเรา ~~
인사동 : อินซาดง Insa-dong
พิกัด : สถานี Anguk station, ทางออก 6 เดินตรงมานิดหน่อยจะเจอทางเข้าทางซ้ายมือค่ะ
ร้านต่างๆ ที่อินซาดงส่วนมากจะขายสินค้าเป็นของเกาหลีแบบดั้งเดิม ทั้งศิลปะ ของฝากต่างๆ รวมถึงร้านค้าต่างๆ ที่อินซาดงจะใช้ตักอักษรเกาหลีเขียนชื่อร้านทั้งหมด (ไม่เขียนภาษาอังกฤษเลย) แบบว่าได้อารมณ์ความเป็นเกาหลีมากๆ ค่ะ
เดินไปได้ซักนิด ฝนตกค่ะ! (จริงๆ พยากรณ์อากาศบอกว่าหิมะจะตกนะ แต่กลับมาเป็นฝนซะงั้น -.-‘) ก็เลยต้องหาร้านกาแฟนั่งรอฝนหยุดตกค่อยเดินเที่ยวต่อค่ะ
오설록티하우스 인사동점 : โอซอลลค ทีเฮ้าส์ O´sulloc Tea House | ร้านชาเขียวจากเกาะเจจู
พิกัด : ในถนนอินซาดง อยู่ช่วงต้นๆ ตรงข้ามกับซัมจิกิลค่ะ (ดูพิกัดได้จากแผนที่อินซาดงด้านบนเลยค่ะ^^)
เมนูที่มาลองในวันนี้ก็คือ Fredo Green Tea (오설록 녹차오프레도) ราคา 8,500 วอน
เป็นชาเขียวนมปั่น แล้วก็ใส่ไอศกรีมชาเขียวซอฟเสริฟข้างบนอีกทีค่ะ คือเมนูนี้ฟินมากกก ชาเขียวเจจูของเค้าดีงามจริงๆ เข้มข้น หอม อร่อยค่ะ
อีกอย่างที่อยากจะแนะนำให้ซื้อมาเป็นของฝากหรือทานเองก็ดีค่ะ สำหรับคนชอบชาเขียว คือเจ้าตัวนี้ค่ะ Green Tea Milk Spread (오설록 녹차 밀크 스프레드) ราคา 8,500 วอน
เป็นชาเขียวที่ไว้ทาขนมปังที่แบบว่าเลอค่ามากค่ะ >.< ชาเขียวเข้มข้นมาก ดีงามสุดๆ ค่ะ!
쌈지길 : ซัมจิกิล Ssamziegil
พิกัด : อยู่ช่วงต้นของถนนอินซาดง ฝั่งซ้ายมือ และอยู่ตรงข้ามร้านชาเขียวโอซอลลคตะกี้เลยค่ะ (ดูพิกัดได้จากแผนที่อินซาดงด้านบนเลยค่ะ^^)
ซัมจิกิลจะเป็นเหมือนร้านขายของบนอาคารที่แบบว่าไม่มีบันไดค่ะ สามารถเดินวนขึ้นได้เพลินๆ ของส่วนใหญ่ที่ขายก็จะเป็นสินค้าแฮนเมดน่ารักๆ ค่ะ
เดินอยู่พักใหญ่ๆ ฝนไม่มีทีท่าจะหยุดตกเลยค่ะ เราก็เลยได้เดินอินซาดงเพียงเท่านั้น แล้วก็เดินทางไปที่ต่อไปกัน
동대문디자인플라자 : ดงแดมุนดีไซน์พลาซ่า Dongdaemun Design Plaza (DDP)
พิกัด : สถานี Dongdaemun History & Culture Park Station, ทางออก 1
ออกทางออก 1 ออกมาแล้วอึ้งเลย.. เหมือนกับหลุดออกมาอยู่บนยานอวกาศ 555+ มาช่วงกลางคืนด้วย ไฟสวยมากๆ เลยค่ะ
เดินข้ามบันไดไปฝั่งสวน.. ช่วงนี้จะมีสวนดอกกุหลาบไฟสีขาวอยู่ค่ะ คือ.. สวยมาก >.< ถ้ามากับแฟนนี่คือโรแมนติกสุดๆ ค่ะ (ถ้าจำไม่ผิดตรงนี้เป็นที่ถ่ายทำซีรี่ย์หลายเรื่องเลย รวมถึงเรื่อง She was pretty ด้วยค่ะ)
★*˛. Day 4˛.*★
ต่อกันที่วันที่ 4 เลยนะคะ วันนี้จากแพลนตอนแรกจะไปซอรักซานค่ะ (ถ้าดูพยากรณ์แล้วหิมะตก.. ปรากฏว่ามันไม่ตก แง ㅠ.ㅠ ก็เลยเป็นวันฟรีค่ะ อยากตามไปเก็บอะไรที่ไหนก็ไปกัน!) เริ่มต้น กองทัพต้องเดินด้วยท้องก่อนเนอะ กินอะไรดีน้าา เช้านี้ ^^
홍스쭈꾸미 홍대본점 : ฮงซึจุกุมี Hong’s Jjukkumi | ปลาหมึกผัดเผ็ด+ข้าวผัดไข่กุ้ง
พิกัด : สถานี Hongik University station, ทางออก 8 เดินตรงไปที่วงเวียน แล้วเลี้ยวไปทางซ้ายมือ ร้านจะอยู่เลยหมูย่างเซมาอึล (ร้านเหลืองแดง) ไปนิดเดียวค่ะ
หน้าร้านเป็นสีแดงแบบนี้เลย เห็นเด่นชัดแน่นอนค่ะ
เมนูหลักของร้านจะเป็นปลาหมึกผัดเผ็ด (ค่อนข้างเผ็ดมากนะคะ)
1. 쭈꾸미 : จุกุมี = ปลาหมึกล้วนๆ 10,000 วอน/ที่
2. 쭈삼겹 : จุซัมกย๊อบ = ปลาหมึก+หมูสามชั้น 11,000 วอน/ที่
3. 쭈새우 : จุเซอู = ปลาหมึก+กุ้ง 11,000 วอน/ที่
**ข้าวผัดมีบริการให้ฟรีค่ะ**
อันนี้อีฟสั่งแบบจุกุมีธรรมดามา ขนาด 2 ที่ (มาพร้อมกิมจิหัวไชเท้า ใบงา ถั่วงอก มันบด และข้าวไหม้ต้ม)
พอทานปลาหมึกผัดใกล้ๆ จะหมดก็เรียกพนักงานมาค่ะ บอกเค้าว่า “โบกึมบับ” (알마니 볶음밥) เค้าก็จะเอาข้าวมาผัดๆ แล้วก็ไคลแมกซ์มันอยู่ตรงนี้ คือไข่กุ้งเยอะมาก ตักๆๆ ใส่ลงไป แล้วก็เกลี่ยๆ ทั่วข้าว.. โอวววว อร่อยสุดๆ ค่ะ ห้ามพลาดเลยจริงๆ
เสร็จแล้วหน้าตาออกมาเป็นแบบนี้ ท้าดาาา~~
สรุปร้านนี้ก็เป็นอีกร้านที่ติดใจและอยากจะกลับไปกินอีกค่ะ โดยเฉพาะข้าวผัดที่ดีงาม (กว่าปลาหมึกผัด 555) ก่อนออกจากร้าน จ่ายเงินแล้ว อย่าลืมหยิบยาคูลท์ทานได้อีกคนละ 1 ขวดนะคะ
จากนั้นทานอิ่มแล้วเราก็เดินเล่นช้อปปิ้งโน่นนี่กันในฮงแด แล้วก็ไปแวะถ่ายรูปกันที่ คลองชองกเยชอน : 청계천 Cheonggyecheon กันค่ะ
พอเข้าช่วงเย็นก็ขึ้นไปชมวิวเมืองโซลกันที่ N서울타워 : N Seoul Tower กันค่ะ
พิกัด : สถานี Chungmuro, ทางออก 2 จะเจอป้ายรถเมล์ ให้รอรถเมล์สาย 02 ค่ะ จะไปถึงตรงทางเดินขึ้นโซลทาวเวอร์เลย (ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ)
บนดอยหนาวมากกกกกค่ะ แถมยังคนเยอะ ไม่มีที่อุ่นๆ ให้นั่งกินอะไรเลย เราก็เลยชะโงกทัวร์แป้ปเดียว ก็ลงกลับมารอรถเมล์กลับที่พักกันดีกว่า
คืนที่ 4 เป็นคืนสุดท้ายของปี 2015 พอดีค่ะ ด้วยความที่เกาหลีเค้าไม่มีงานเค้าดาวน์แบบว่ามีงานฉลองจุดพลุอะไรแบบนี้ แต่จะมีงานตีกลองใหญ่? (ไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกว่ากลองหรือเปล่า) เพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย แต่มันไม่ใช่แนวเราเลย -.- ก็เลยตัดสินใจซื้อไก่ทอด กับ เบียร์ มากินเค้าดาวน์กับรายการ K-pop ในทีวีที่เกสท์เฮ้าส์กันค่ะ 5555
ไก่คโยชอน (ไก่พี่ลีมินโฮ) กล่องนี้ราคา 18,000 วอนค่ะ สั่งเดลิเวอรี่ไม่เป็น ก็เลยไปซื้อที่ร้านเลย อยู่ไม่ไกลเกสท์เฮ้าส์ แถมยังมีมาร์ทอยู่ใกล้ๆ ด้วย ก็เลยได้เบียร์ hite มาอีก 2 กระป๋อง ฮิฮิ (เบียร์กระป๋องละ 1,980 วอน)
แล้วเราก็อิ่มอร่อยส่งท้ายปีเก่ากันไปด้วยความอิ่มอร่อยนี้ค่ะ ^o^
good bye 2015 ~
เจอกันใหม่ปี 2016 ที่พาร์ท 3 นะคะ
(ตามอีฟเที่ยวอินชอน-ซงโดพาร์ท 3 ได้ที่นี่ค่ะ > [Korea Winter 2016] -Part 3-)
(ตามอีฟเที่ยวปูซานพาร์ท 4 ได้ที่นี่ค่ะ > [Korea Winter 2016] -Part 4-)
You must be logged in to post a comment.