รีวิว : ไปเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเองกันเถอะ! 2559 [Korea Winter 2016] 한국으로 여행가자!~ -Part 3-

south-korea-winter-2016-backpack-trip-part-3

새해 복 많이 받으세요!
สวัสดีปีใหม่ 2559 ~ จากเกาหลีค่า รีวิวกันมาถึงพาร์ท 3 กันแล้วเนอะ พาร์ทนี้เราจะออกไปเที่ยวนอกโซลกันบ้างค่ะ หลังจากตะลอนๆ ในโซลกันมากว่า 4 วันแล้ว..
(ตามอีฟเที่ยวในโซลได้ที่นี่ค่ะ > [Korea Winter 2016] -Part 1- | [Korea Winter 2016] -Part 2- )

โปรแกรมที่เราจะไปกันในพาร์ท 3 นี้ก็คืออออ …อินชอน… ค่าาาา ตามไปเที่ยวกันเล้ยย~~

★*˛. Day 5˛.*★

ก่อนจะไปลุยไกลถึงอินชอนวันนี้ แน่นอนค่ะ กองทัพต้องเดินด้วยท้องก่อนเนอะ ฮี่ฮี่.. เช้านี้เราจะไปหาอะไรกินกันที่นี่ค่ะ

 광장시장 : ตลาดกวางจัง Gwangjang Market
พิกัด : สถานี Jongno 5-ga station, ทางออก 8 เดินตรงไปนิดเดียวเจอทางเข้าตลาดซ้ายมือเลยค่ะ

광장시장 | Gwangjang Market Map

ตลาดนี้เป็นศูนย์รวมของอาหารเกาหลีทั้งหมดค่ะ (ส่วนใหญ่เป็น street food) อยากกินอะไรที่นี่มีเกือบครบเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นบิบิมบับ, ต๊อกบกกี, มายักคิมบับ, ซุนแด(ไส้กรอกเลือด), พาจอน(แพนเค้กเกาหลี), จกบัล(ขาหมู), ทักบัล(ตีนไก่), ชับแช่(ผัดวุ้นเส้นเกาหลี), บินแดต๊อก (แพนเค้กถั่วเขียว) ….และอื่นๆ อีกมากมาย คือมามื้อเดียว ท้องไม่พอแน่นอนค่ะ >.<

ร้านค้าเยอะมาก ส่วนมากจะขายคล้ายๆ กันค่ะ อีโมนิม อาจุมอนีเรียกเข้าร้านกันใหญ่เลย ถูกชะตาคนไหนก็เลือกเข้าได้ตามอัธยาศัยได้เลยค่ะ

광장시장 | Gwangjang Market

ร้านแรกที่เราเลือกกินก็คือ.. บินแดต๊อก (빈대떡) บินแดต๊อกก็คือแพนเค้กเกาหลีที่ทำจากถั่วเขียวบดค่ะ ทอดกรอบๆ ข้างในจะมีถั่วงอกใส่ด้วยค่ะ และเท่าที่อีฟศึกษามา เค้าว่ากันว่าบินแดต๊อกที่ตลาดกวางจังอร่อยค่ะ แล้วก็ออกรายการทีวีเยอะแยะไปหมด ที่นี่มีหลายร้านเลยค่ะ แต่คิดว่าน่าจะไม่ต่างกัน เพราะคนนั่งทานเยอะทุกร้านเลยค่ะ อีกอย่างนึง เค้าว่ากันว่ากินพาจอน (แพนเค้กเกาหลี) หรือ บอนแดต๊อกกับมักกอลลีมันเข้ากันได้ดี.. อ๋อเหรอออ อีฟก็เลยนะ.. โอเค! จัดไป (เช้าๆ แบบนี้เลย! 555)
บินแดต๊อก 1 แผ่น 4,000 วอน มักกอลลี(เหล้าข้าวหมัก) 1 ขวด 3,000 วอนค่ะ

빈대떡 Bindaetteok at 광장시장 Gwangjang Market

บินแดต๊อกทอดใหม่ๆ ร้อนๆ กรอบนอกนุ่มใน อร่อยมากค่ะ ทานกับมักกอลลีนวลๆ ซ่าๆ อืมมมม..ดีงามอีกแล้วอ่ะค่ะ (ติดแค่ว่าเช้าไปนิดนึงมั้ยยยย >.<)

ต่อกันด้วยมายักคิมบับ (마약김밥) มายักคิมบับจะเป็นคิมบับม้วนเล็กๆ คำว่า มายัก แปลว่ายาเสพติดค่ะ เหมือนประมาณว่า กินแล้วหยุดกินไม่ได้อะไรงี้ อีฟซื้อจากร้านนี้ค่ะ ร้านสีแดงตรงมุมกลางตลาดเลย เป็นร้านที่รันนิ่งแมนมากินกัน

마약김밥 Mayak Gimbap | 광장시장 Gwangjang Market

1 กล่องนี้ราคา 3,000 วอนค่ะ ร้านนี้ไม่มีที่นั่งกินด้วย เลยต้องแอบเอาไปขอกินร้านอื่น >.<
รสชาติก็คิมบับเลยค่ะ ชิ้นเล็กทานง่าย ใส้เยอะ อร่อยค่ะ

마약김밥 Mayak Gimbap | 광장시장 Gwangjang Market

ต่อกันที่ร้านสุดท้ายของเช้านี้ สิ่งนึงที่อยากลองมากถ้ามาเกาหลีก็คือ ซันนักจี (산낙지) ซึ่งก็คือปลาหมึกดิ้นๆ นั่นเองค่ะ แต่ไปหาหลายๆ ร้านแล้วไม่มี เพราะเค้าบอกว่าหน้าหนาว หายาก แต่ๆ .. ตลาดกวางจัง มีทุกอย่างที่คุณต้องการค่ะ! ก็เลยลัดเมนูอื่นๆ มากินซันนักจีกันซะเลย

เห็นตู้ปลาหมึกแบบนี้ที่ร้านไหน ก็เข้าร้านได้เลยค่ะ มีบริการแน่นอน.. เลือกได้เลยเอาตัวไหน

산낙지 Sannakji | 광장시장 Gwangjang Market

อาจุมม่าภูมิใจนำเสนอมากค่ะ อร่อยน้า ลองไหม เอาตัวนี้ไหม.. ถ่ายรูปด้วยไหม

산낙지 Sannakji | 광장시장 Gwangjang Market

ถ่ายรูปเสร็จแล้วเนาะ.. จัดการล้างๆๆ แล้วก็ใช้กรรไกรค่ะ ตัดๆๆ สดๆ เลยใส่ลงไปในจาน แล้วก็เทน้ำมันงา โรยงา คนๆ เสิร์ฟ!!
จานนี้สนนราคา 15,000 วอนค่ะ ไม่ใช่เล่นๆ เหมือนกันนะเนี้ยยย

산낙지 Sannakji | 광장시장 Gwangjang Market

ในส่วนของรสชาติ ก็หนึบๆ หวานๆ ดีค่ะ หนวดจะดูดในปากเรานิดหน่อยค่ะ **ควรเคี้ยวให้ไวและละเอียดก่อนกลืนนะคะ** ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะหนวดมันใหญ่ หรือ เพราะอากาศหนาวมาก มันเลยไม่ค่อยดิ้นให้เราสยองขวัญซักเท่าไหร่ค่ะ 555

ก็ทานกันไปหลายอย่างแล้วเนอะ (จริงๆ อยากทานอีกหลายอย่างเลย แต่แบบว่าเช้าๆ แบบนี้ก็เลยกินได้น้อย >.<) ตลาดนี้ไว้โอกาสหน้าได้มาเกาหลีอีก ต้องมาอีกแน่นอนค่ะ ได้เวลากลับไปเช็คเอ้าท์ที่เกสท์เฮ้าท์ และเตรียมตะลุยอินชอนกันค่ะ

เนื่องจากคืนวันนี้อีฟตั้งใจจะไปนอนที่อินชอน แบบนอนในจิมจิลบัง สัมภาระอันใหญ่โตนั้นจะลากไปอินชอนด้วยก็ไม่ควร จะเที่ยวสนุกได้ยังไงเนอะ ก็เลยเอากระเป๋าไปฝากไว้ที่นี่เลยค่ะ

RAON BAGGAGE STORAGE | บริการฝากกระเป๋าเดินทาง
พิกัด : สถานี Hongik University station อยู่ใกล้กับทางออก 7 (เป็นชอปอยู่ใต้ดิน หลังจากสแกนบัตร t-money จะอยู่ซ้ายมือค่ะ)

RAON BAGGAGE STORAGE MAP

RAON BAGGAGE STORAGE
บริการรับฝากกระเป๋า RAON BAGGAGE STORAGE สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Hongik University ใกล้ทางออก 7

 อัตราค่าบริการฝากกระเป๋าคร่าวๆ จะเป็นตามนี้นะคะ
ขนาดเล็ก-20นิ้ว = 1 วัน 3,000 วอน วันต่อไป +2,000 วอน
ขนาดกลาง 21-30นิ้ว = 1 วัน 5,000 วอน วันต่อไป +3,000 วอน
ขนาดใหญ่ 31นิ้วขึ้นไป = 1 วัน 7,000 วอน วันต่อไป +4,000 วอน
**ขนาดกระเป๋าเหมือนว่าพนักงานเค้าจะเป็นคนกะให้อีกทีอ่ะค่ะ กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของอีฟขนาด 28นิ้ว แต่พนักงานก็แจ้งว่าเป็นไซส์ใหญ่นะ

Raon Baggage Storage Rate

ที่นี่มีเอกสาร แผนที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวให้หยิบเยอะแยะเลยค่ะ แถมยังมีชุดเกาหลีให้ลองใส่กันได้ด้วย ฝากกระเป๋าแล้วเวลากลับมาเอาก็มีพื้นที่ให้จัดกระเป๋าได้ด้วยค่ะ ค่อนข้างสะดวกสบายเลย

เวลาเอากระเป๋าไปฝาก ก็แค่ยื่นพาสปอร์ตให้พนักงานเอาไปคีย์ข้อมูลเกี่ยวกับเรานิดหน่อยค่ะ แล้วเราจะได้รับการ์ดสีฟ้าแบบในรูปนี้มา แล้วเวลาขากลับก็แค่แสดงการ์ดนี้กับพาสปอร์ตได้เลยค่ะ จ่ายเงินค่าฝากกระเป๋าตอนวันมาเอาของทีเดียวเลยค่ะ

Raon Baggage Storage Card

ฝากกระเป๋าตัวเบาแล้ว เราก็แปลงกายเป็น Backpacker ตะลุยเมืองอินชอนกันค่าาา !

인천 차이나타운 : อินชอนไชน่าทาวน์ Incheon China Town
พิกัด : สถานี Incheon station, ทางออก 1

인천 차이나타운 Incheon China Town Map

สถานีอินชอนเป็นสถานีเล็กๆ ค่ะ มีทางออกเดียวเลย พอเดินออกจากสถานีมาก็จะเห็นทางเข้าไชน่าทาวน์อยู่ฝั่งตรงข้ามเลยค่ะ

인천 차이나타운 Incheon China Town

บริเวณเดินเล่นของอินชอนไชน่าทาวน์ค่อนข้างกว้างค่ะ วางแผนเส้นทางเดินเที่ยวกันก่อนได้ค่ะ อันนี้เป็นแผนที่จุดน่าสนใจต่างๆ อยู่ตรงทางเข้าเลย

인천 차이나타운 Incheon China Town Map

บริเวณเดินเที่ยวค่อนข้างกว้างค่ะ และเป็นเนินเดินขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วย อาจจะเหนื่อยกันนิดนึง แถมวันนี้เป็นวันที่ 1 มกราด้วย โอ้โห.. ประชากรเกาหลีพร้อมอกพร้อมใจกันมาเที่ยวเต็มไปหมดเลยค่ะ ไม่ว่าร้านขนม ร้านอาหาร ทุกร้านมีคิวต่อแถวยาวมาก อีฟก็เลยอดชิมซาลาเปาย่าง อดชิมจาจังเมียนเลย (คนเยอะเกินต่อคิวไม่ไหวจริงๆ -_-;)

송월동동화마을 : ซงวอลดงดงฮวามาอึล Incheon Fairy Tale Village | เมืองเทพนิยายอินชอน
พิกัด : สามารถเดินจากอินชอนไชน่าทาวน์ได้เลยค่ะ อยู่ข้างๆ กันเลย

송월동동화마을 | Incheon Fairy Tale Village Map

เป็นที่ที่แบบว่า มุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้งมากๆ ค่ะ >.< หันไปทางไหนก็เป็นการ์ตูน เป็นนิยายเต็มไปหมด สีสันสดใส เหมาะกับสาวๆ ที่ชอบถ่ายรูป คู่รักมาหวานสวีทกัน (อีกแล้ว ㅠ.ㅠ)

송월동동화마을 | Incheon Fairy Tale Village

เมืองนิยายนี่กินพื้นที่เยอะมากค่ะ ทุกซอก ทุกซอยเป็นการ์ตูนสีสันสดใสสวยงามเต็มไปหมดเลย (ความรู้สึกส่วนตัวคือเยอะ และ แน่นกว่าอีฮวาดงอีกค่ะ) ใครชอบถ่ายรูปคือแนะนำที่นี่เลย เมมอาจหมดได้จริงๆ เพราะมุมถ่ายรูปเยอะมากกกก

ขนาดอีฟเดินไม่ทั่วเท่าไหร่ยังได้รูปมาเยอะมากเลยค่ะ แต่ต้องรีบกลับก่อน ก่อนจะค่ำไปมากกว่านี้ เพราะต้องรีบนั่งรถเมล์ยาวไปซงโด.. จุดหมายหลักของทริปเกาหลีครั้งนี้กันค่ะ นั่นก็ติ่งเด็กสามแฝดนั่นเอง (≧◡≦)~~

테루 : เทรุ Tero | หมูทงคัสสึจิ้มจุ่มชีสยืดดดดตามรอยสามแฝด
พิกัด : สถานี Central Park, ทางออก 4 จะเจอสวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์ค เดินตามแผนที่ไปฝั่งคอนโดบ้านเด็กๆ ค่ะ หันหน้าเข้าคอนโดทั้งสาม แล้วเดินไปทางซ้ายมือจนสุดอาคารแรก จะเจอศูนย์การค้าชื่อ NC Cube Canal Walk เริ่มจากโซน 1 ให้เดินยาวไปเรื่อยๆ จนไปถึงโซน 3 ร้านจะอยู่ชั้น 2 ฝั่งขวามือ (โซน 302) ค่ะ

테루 Tero | Songdo NC Cube Canal Walk

หน้าตาหน้าร้านเทรุ มื้อเย็นของเราวันนี้ค่ะ.. รูปอาจจะมืดไปนิดนะคะ เพราะไปถึงค่ำแล้ว >.<

테루 Tero | Songdo NC Cube Canal Walk

แน่นอนว่าเมนูที่เราจะกินในวันนี้ก็ต้องตามรอยเด็กๆ เหมือนเดิม ซึ่งก็คือ 치즈퐁듀 꼬치 돈카츠 : ชิ่จือพงดยู โกชิ่ ทนคาชึ (นี่อ่านสำเนียงเกาหลีเลย ชิ่จือคือชีสนะคะ >.< ถ้าอ่านแบบอังกฤษหน่อยก็ ชีสฟองดู โกชิ ทงคัสสึ ค่ะ) หรือสามารถจิ้มในเมนูได้เลยค่ะ เปิดมาหน้าแรกจะเจอเลย เมนูนี้ราคา 9,900 วอนค่ะ

치즈퐁듀 꼬치 돈카츠 | 테루 Tero

ในส่วนของรสชาติ.. กรอบนอก หมูนุ่มใน อร่อยมากค่ะ แต่แบบว่าไปคนเดียว กินทั้งหมด 6 ไม้ มันก็เลยค่อนข้างเยอะไปนิด และรู้สึกเลี่ยนมากค่ะ >.< แต่ก็พยายามกินจนหมดนะคะ 555 เสียดายของเนอะ

ทานอิ่มแล้วอากาศช่วงค่ำๆ เริ่มเย็นลงเรื่อยๆ ต้องรีบไปหาความอบอุ่นกันค่ะ คืนนี้เราจะไปนอนอุ่นๆ กันที่จิมจิลบัง (โรงอาบน้ำ) กันค่ะ!!

블루오션 사우나 : บลูโอเชี่ยน ซาวน่า Blue Ocean Sauna | จิมจิลบังตามรอยสามแฝด
พิกัด : จากสถานี Central Park, ทางออก 4 ให้เดินทะลุสวนซงโดเซนทรัลพาร์คมาหน้าบ้านเด็กๆ หันหน้าเข้าคอนโดเด็กๆ เดินไปทางขวามือค่ะ เดินตรงยาวไปเรื่อยๆ จนถึงสี่แยกใหญ่ (สุดปลายสวน) ให้เลี้ยวซ้ายจากนั้น เดินตรงไปอีกยาวๆ จนเจอสี่แยกใหญ่ ก็ให้ตรงไปอีกค่ะ เดินจนผ่านตึกตำรวจใหญ่ๆ นั้นไป จะเจอตึกคล้ายๆ ห้าง ชื่อ 드림시티 (Dream City) ค่ะ เข้าไปตรงช่องกลางอาคารจะมีลิฟท์ กดขึ้นไปชั้น 6 จะเป็นชั้นของจิมจิลบังทั้งหมดค่ะ

블루오션 사우나 | Blue Ocean Sauna Map

จิมจิลบัง (찜질방) คือซาวน่าหรือโรงอาบน้ำค่ะ เป็นสถานที่พักผ่อนที่นึงของคนเกาหลี ยิ่งช่วงหน้าหนาวอากาศข้างนอกเย็นสุดๆ แบบนี้ การมาอาบน้ำอุ่น แช่น้ำร้อนๆ หรืออบตัวในห้องอุณหภูมิต่างๆ งี้ ก็เป็นกิจกรรมที่ทำให้ผ่อนคลาย ร่างกายสบายตัวอย่างนึงค่ะ
แล้วไปจิมจิลบังต้องทำยังไงบ้าง? วันนี้อีฟจะมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังกันค่ะ ^o^
Step 1 : จ่ายเงินค่าเข้าใช้บริการกันก่อนค่ะ ที่บลูโอเชี่ยนซงโด จะมีค่าบริการตามนี้เลยค่ะ
ผู้ใหญ่ = เช้า (ตี5 – 2ทุ่ม) 8,000 วอน / กลางคืน (2ทุ่ม – ตี5) 10,000 วอน
เด็ก = เช้า (ตี5 – 2ทุ่ม) 4,000 วอน / กลางคืน (2ทุ่ม – ตี5) 5,000 วอน

블루오션 사우나 | Blue Ocean Sauna
ค่าใช้บริการจิมจิลบัง บลูโอเชี่ยน ซงโด อินชอน

Step 2 : จ่ายเงินเสร็จปุ๊บ จะได้รับสายใส่ข้อมือสีแดงที่มีตัวเลข และ กุญแจติดอยู่ค่ะ จากนั้นก็เดินไปรับเสื้อ-กางเกง และผ้าขนหนู (ผืนเล็ก) 2 ผืน

블루오션 사우나 | Blue Ocean Sauna
สายใส่ข้อมือ มีหมายเลขและกุญแจล็อคเกอร์รองเท้า-เสื้อผ้า

Step 3 : เดินแยกฝั่งชาย-หญิงค่ะ ชายเข้าฝั่งขวา หญิงเข้าฝั่งซ้าย ที่แรกจะเจอเลยก็คือล็อคเกอร์เก็บรองเท้า ให้หาหมายเลขล็อคเกอร์ตามสายข้อมือ แล้วใช้กุญแจนั้นเปิดมันและเก็บรองเท้าของเราค่ะ

블루오션 사우나 | Blue Ocean Sauna
ล็อคเกอร์เก็บรองเท้า

Step 4 : ขั้นตอนนี้ต้องเตือนให้ทุกท่านทำใจให้ดีๆ ก่อนเปิดผ้าม่านค่ะ เพราะหลังม่านนี้ท่านจะเจอกับเด็กๆ ไปจนถึงสาวๆ ไปจนถึงอาจุมม่าทุกคนโป้เปลือยเดินไปมาละลานตาเต็มไปหมด อย่าตกใจนะคะ ทำตัวนิ่งๆ เนียนๆ แล้วเดินเข้าไปที่ล็อคเกอร์ของเราค่ะ! จากนั้น เราก็โป้เปลือยตามเค้าค่ะ! เก็บของเสื้อผ้าทุกอย่างใส่ไปในล็อคเกอร์ แล้วหยิบผ้าเช็ดตัวน้อยมา 1 ผืน เดินตรงไปอาบน้ำ แช่น้ำร้อนกันค่ะ!
5555+ พูดเหมือนง่ายเลยเนอะ เอาจริงๆ อีฟก็ไม่กล้าทำแบบนั้นเหมือนกันค่ะ อีฟเข้าไปช่วงเย็นด้วย คนเยอะมากกก ตอนนั้นคือไม่กล้าอาบน้ำเลย เปลี่ยนเสื้อผ้าที่เค้าให้มาแล้วเข้าไปข้างในส่วนกลาง หาอะไรกินแล้วก็หาที่นอน แล้วมาอาบเอาตอนเช้าตรู่ที่ยังไม่ค่อยมีใคร (ส่วนใหญ่เป็นอาจุมม่า) เลยไม่ค่อยอายเท่าไหร่ค่ะ
**ใครจะมาอาบน้ำหรือนอนค้างคืน เตรียมอุปกรณ์อาบน้ำมาด้วยนะคะ หรือจะมาซื้อที่นี่ก็ได้ค่ะ มีเค้าท์เตอร์ขายอยู่เหมือนกัน (แต่ไม่ทราบราคาเน้อ) ส่วนเครื่องสำอางค์อะไรก็เตรียมมาด้วยนะค้า ที่นี่จะมีบริการพวกไดร์-ที่หนีบผมให้ (หยอดเหรียญ 100 วอน เครื่องใช้ได้ประมาณ 1 นาทีค่ะ)
ที่ห้องอาบน้ำ จะมีทั้งแบบชาวเวอร์ มีทั้งแบบนั่งยองๆ อาบ แล้วก็มีบ่อแช่ประมาณ 4 บ่อที่อุณหภูมิต่างๆ กันไปค่ะ (ตรงนี้ถ่ายรูปมาฝากไม่ได้จริงๆ >.<)

블루오션 사우나 | Blue Ocean Sauna
โซนล็อคเกอร์เปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ อันนี้(แอบ)ถ่ายมาตอนเช้าๆ ยังไม่มีคนเปลือยเดินไปมา เดินตรงไปเลี้ยวขวาคือทางเดินเข้าไปห้องอาบน้ำค่ะ

Step 5 : หลังจากอาบน้ำแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่จิมจิลบังให้มาก็เดินเข้ามาสู่ส่วนกลางค่ะ ส่วนกลางนี้จะมีทั้งห้องบริการนวดตัว, ห้องฟิตเนส, ห้องคอมพิวเตอร์, ห้องของเล่นเด็กๆ, รวมถึงห้องอบตัวอุณหภูมิที่ต่างๆ ตั้งแต่เย็นยะเยือกไปจนร้อนเลยค่ะ, มีเก้าอี้นวด (ใส่แบงค์ 1,000 วอนนวดให้ 10 นาที), มีลานตรงกลางไว้นั่งดูทีวีร่วมกัน, มีอุโมงค์ให้เข้าไปนอน (ในอุโมงค์พื้นจะอุ่น-ร้อน)
ก็เลือกทำกิจกรรมกันตามอัธยาศัยค่ะ บางคนก็นอนหลับบ้าง จีบกันมุ้งมิ้งบ้าง มาร์สหน้าบ้าง ดูทีวีบ้าง..

Step 6 : มาจิมจิลบังอีกสิ่งที่ต้องไม่พลาดคือกินไข่ต้ม (คเย-รัน, 계란) กับ น้ำข้าว (ชิ-คเย, 식혜) ค่ะ ที่จิมจิลบังจะมีโซนร้านอาหารอยู่ค่ะ มีทั้งอาหารเป็นมื้อจริงจัง ไปจนขนมกินเล่น ไอติม แล้วก็เครื่องดื่มร้อน-เย็นบริการค่ะ
อีฟกินชิคเย 1 แก้ว 2,500 วอน กับไข่ต้มสีเข้มๆ 3 ฟอง 2,000 วอนค่ะ (ที่นี่เวลาซื้อของกินจ่ายเงินสดนะคะ)

Step 7 : ทานอะไรอิ่มแล้วก็หาที่นอนค่ะ ที่นี่จะมีหมอนเล็กๆ สีน้ำเงินให้ใช้ฟรีค่ะ แต่ผ้าห่มไม่มีนะคะ (มีให้เช่า แต่อีฟไม่แน่ใจว่ากี่บาท) อีฟเลือกนอนในอุโมงค์ค่ะ ช่วงดึกๆ ก็เดินๆ ส่องหาอุโมงค์ว่างๆ นอน ในอุโมงค์คืออุ่น (จนร้อน พื้นร้อนม้ากกกก)
ตื่นเช้ามาก็อาบน้ำ แต่งตัว ไดร์ผม แต่งหน้า เรียบร้อยก็คืนสายข้อมือคืนที่ทางออกได้เลยค่ะ

โดยส่วนตัวแล้วชอบนะคะ ประสบการณ์ที่จิมจิลบัง รู้สึกได้ผ่อนคลายจากที่เราเดินเที่ยวมาทั้ง 5 วัน คราวหน้าถ้ามีโอกาสไปเกาหลีอีกก็คิดว่าไม่พลาดจะไปลองที่อื่นๆ อีกค่ะ (เพราะแต่ละที่ก็มีกิจกรรมอะไรบริการต่างกันไป เราต้องลอง!)

★*˛. Day 6˛.*★

뉴욕베이글 송도 : นิวยอร์คเบเกิล N.Y.Bagel n’ Cream Cheese | เบเกิลชีสตามรอยสามแฝด
พิกัด : เริ่มจากหน้าบ้านสามแฝด เดินมาทางขวามือค่ะ จนเจอ 4 แยกใหญ่ ให้เลี้ยวซ้าย แล้วเดินไปจนเกือบถึง 4 แยก ร้านจะอยู่ซ้ายมือ ข้างๆ 7-11 ค่ะ

뉴욕베이글 송도 | N.Y.Bagel n' Cream Cheese Map

ร้านจะอยู่ติดกับเซเว่น-อีเลฟเว่นเลยค่ะ หาไม่ยาก เปิดบริการตั้งแต่ 7.40 เลยทีเดียว

N.Y.Bagel n' Cream Cheese, Songdo

เมนูหลักของร้านนี้จะเป็นเบเกิลค่ะ มีหลายแบบให้เลือกเยอะมาก รวมถึงชีสที่สเปรดก็มีหลายรสชาติให้เลือก และมีเครื่องดืมร้อน-เย็นบริการค่ะ เช้านี้เรามาทานเบรคฟ้าสสไตล์นิวยอร์คกัน อิอิ
วันนี้อีฟเลือกทานแบบธรรมดา (Plain) 1,800 วอน + สเปรดด้วย นูเทลล่า ชอคชิฟ (Nutella Chocolate Chunk Chip) 2,000 วอน + ลาเต้ร้อน (Latte) 3,000 วอนค่ะ

Plain Bagel + Nutella Chocolate Chunk Chip with Latte at N.Y.Bagel n' Cream Cheese, Songdo

อิ่มท้องกันแล้ว เราก็ไปเดินเล่นที่สวนกันค่ะ

송도센트럴공원 : ซงโดเซ็นทรัลพาร์ค Songdo Central Park | สวนหน้าบ้านสามแฝด
พิกัด : สถานี Central Park, ทางออก 4

Songdo Central Park | Triplet's Map

สวนนี้กว้างมากๆ ค่ะ มีทั้งโซนกิจกรรมทางน้ำ (เช่าเรือคายัก, ล่องเรือ) หรือจะเป็นโซนเลี้ยงกวาง-กระต่าย, โซนออกกำลังกาย, โซนร้านคาเฟ่-ร้านอาหาร, โซนหมู่บ้านโบราณ .. สวนเดียว มีทุกอย่างครบครันเลยค่ะ
อีฟรวบรวมภาพมุมสวยๆ หลายๆ มุมมาให้ชมกันค่ะ

เดินเล่นในสวนมาซักพักใหญ่ๆ แล้ว เราก็ไปทานมื้อเที่ยงกันต่อเลยค่า ^^

구수한 설렁탕 꼬리곰탕 : คุซูฮัน ซอลลองทังโกริโกมทัง Gusuhan Seolleongtang | ร้านกระดูกในตำนานตามรอยสามแฝด
พิกัด : จากหน้าบ้านเด็กๆ เดินมาทางขวามือ ผ่าน 3 แยกแรกไปก่อนค่ะ แล้วเจอ 3 แยกที่ 2 เลี้ยวซ้าย เดินไปอีกนิดเดียวจะเจอร้านสีเขียวอยู่ซ้ายมือค่ะ

구수한 설렁탕 꼬리곰탕 | Gusuhan Seolleongtang

หน้าร้านจะเป็นสีเขียวแบบนี้เลยค่ะ มีรูปของสามแฝดตอนมาทานกับซารังนูน่าโชว์ที่หน้าร้านด้วย ^o^

구수한 설렁탕 꼬리곰탕 | Gusuhan Seolleongtang

เมนูที่สั่งทานมื้อเที่ยงนี้ก็คือ ซอลลองทัง (설렁탕) คือซุปกระดูกวัวเคี่ยวจนเป็นซุปสีขาวๆ แล้วก็จะมีเนื้อวัวด้วยค่ะ มากับข้าว 1 ถ้วย ชุดนี้ราคา 7,500 วอนค่ะ รสชาติซุปตอนมาจะจืดๆ หน่อยค่ะ ต้องเติมเกลือเพิ่มเองตามความชอบ ทานอุ่นๆ ร้อนๆ อร่อยดีค่ะ

설렁탕 | Gusuhan Seolleongtang

ทานของคาวกันแล้ว มาต่อด้วยของหวานกันค่ะ ~~

옥루몽 : อกรุมง Okrumong | บิงซูถั่วแดงตามรอยสามแฝด
พิกัด : อยู่ในโครงการ NC Cube Canal Walk โซน 302 ฝั่งขวามือ ชั้นล่างค่ะ (ดูจากแผนที่เดียวกับทงคัสสึจุ่มชีสร้าน teru ได้เลยค่ะ)

옥루몽 송도 커넬워크 | Okrumong Songdo NC Cube Canal Walk

ร้านนี้จะขึ้นชื่อเรื่องถั่วแดงค่ะ มีทั้งขนมปังไส้ถั่วแดง โจ๊กถั่วแดง แล้วก็บิงซูถั่งแดง
ซึ่งวันนี้อีฟจะมาลองบิงซูถั่วแดงค่ะ (가마솔 전통 팥빙수) ถ้วยนี้ราคา 8,000 วอน ทานได้ 2 คนแบบพอดีๆ เพราะถ้วยไม่ใหญ่มากค่ะ รสชาติก็.. น้ำแข็งละเอียดดีค่ะ ถั่วแดงให้มาจัดเต็มมาก ทั้งราดข้างบน และใส่มาข้างใน อร่อยค่ะ!! (อร่อยทุกอย่างอ่ะอีฟ -_-“)

Red Bean Bingsu | Okrumong Songdo NC Cube Canal Walk

อิ่มหรือยังคะ.. อิ่มแล้วใช่มั้ยยย? คือจริงๆ ต้องอิ่มแล้วหล่ะค่ะ แต่ด้วยโปรแกรมมันยังเหลือร้านที่ต้องไปตามเก็บอีก เพราะฉะนั้น เราไปต่อร้านต่อไปกันค่ะ 555+ สายกินชัดๆ!

바르다김선생 송도신도시점 : พารือดาคิมซอนแซง Teacher Kim | เกี๊ยวในตำนานตามรอยสามแฝด
พิกัด : จากหน้าบ้านเด็กๆ เดินมาทางขวามือจนถึง 4 แยกใหญ่ เลี้ยวซ้าย จากนั้นเดินไปจนถึงอีก 4 แยกใหญ่ (ที่มี 7-11 ซ้ายมือ) ให้ข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้ามเซเว่น จากนั้นข้ามอีกทีไปฝั่งตรงข้ามค่ะ (ซ้ายมือ) จะเจอเป็นตึกสถานีตำรวจใหญ่ๆ มีรูปปั้นสมอเรือสีเงิน จากนั้นให้เดินไปทางขวามือจนสุดตึกนี้ แล้วเลี้ยวซ้ายค่ะ.. จากตรงนี้ตรงไปยาวๆ จนกว่าจะถึงย่านร้านค้า ร้านเกี๋ยวจะอยู่ข้างๆ ร้าน Etude เลยค่ะ (จากบ้านเด็กๆ ไปร้านเกี๊ยวระยะทางทั้งหมดประมาณ 1.7 กิโลเมตรค่ะ)

바르다김선생 송도신도시점 | Teacher Kim, Songdo Map

หน้าร้านเกี๊ยวในตำนาน สีเหลืองอ่อนๆ ร้านเล็กๆ ข้างๆ ร้านอีทูดี้ หาไม่ยากค่ะ แต่เดินไกลนิดนึง

바르다김선생 송도신도시점 | Teacher Kim, Songdo

เมนูที่สั่งมาทาน จะเป็นอะไรไปได้นอกจากเกี๊ยวถาดนี้ค่ะ คาลบี้มันดุ (갈비만두) 1 ถาด ราคา 4,000 วอน ได้ทั้งหมด 10 ชิ้นค่ะ (ในรูปคือแอบกินไปละ 1 ชิ้น 555) เกี๋ยวนิ่มและอร่อยมากค่ะ น้ำซุปก็อร่อย น้ำชา(เหมือนข้าวโพด)ก็อร่อย แถมน้องพนักงานชายก็อร่อยอีกค่ะ เอ้ยย ไม่อร่อยสิ น่ารักค่ะ 555  ●^o^●

갈비만두 | 바르다김선생 송도신도시점 | Teacher Kim, Songdo

รีวิวตามรอยสามแฝด แทฮัน มินกุ๊ก มันเซทั้งหมด (อย่างละเอียด และรูปแน่นกว่านี้) เพื่อนๆ สามารถตามไปอ่านเพิ่มได้ที่นี่เลยค่ะ > รีวิวกิน-เที่ยวตามรอยแฝดสาม แทฮัน มินกุ๊ก มันเซ @ โซล-ซงโด-ปูซาน
ทานอิ่มกัน (ซักที) ได้เวลากลับเข้าโซลกันแล้วค่ะ .. เดินทางจากซงโด อินชอนเข้าโซลต้องเผื่อเวลาหน่อยนะคะ รถไฟฟ้าใช้เวลาประมาณ หนึ่งชั่วโมงถึงชั่วโมงครึ่งเลย คือแบบว่าหลับหลายตื่นยังไม่ถึงซักที >.<

คืนนี้เช็คอินที่พักที่ใหม่ค่ะ เป็นเกสท์เฮ้าส์เช่นเคย เพราะเราสายประหยัด ซึ่งที่จะนอนคืนนี้ก็คือ Cocoon Stay Hongdae
พิกัด : สถานี Hongik University station, ทางออก 5 หรือ 7 ก็ได้ค่ะ เดินมาทางถนนไปยังฮงแด ประมาณ 150 เมตร ก็ถึงเกสท์เฮ้าส์เลยค่ะ (ใกล้สุดๆ!!)

Cocoon Stay Hongdae Guesthouse Map

อีฟจองห้องดอร์ม (นอนรวม) แบบหญิงล้วน 4 เตียงไว้ค่ะ สนนราคาคืนละ 25,000 วอน แต่ตอนเช็คอิน คุณลุงคิมเจ้าของเกสท์เฮ้าส์คือใจดีมากกกก ชวนคุย ช่วยยกกระเป๋าที่โคตรหนักขึ้นไปชั้น 2 ให้ แล้วก็อัพเกรดห้องจากดอร์ม 4 เตียง เป็นดอร์ม 2 เตียงให้ (ส่วนตัวเพิ่มมาอีกนิดนึง)
เก็บรูปห้องพัก กับบริเวณห้องโถงชั้น 2 มาฝากด้วยนิดนึงค่ะ ห้องค่อยข้างเล็กนิดนึงตามสไตล์เกสเฮ้าส์ เตียงจะเป็นฟูกบางๆ ค่ะไม่หนานุ่ม แต่ก็พอนอนได้ค่ะ มีล็อคเกอร์+กุญแจให้ใส่ของมีค่าได้ โดยรวมแล้วโอเคค่ะ

และก็จบทริปอินชอน-ซงโดอันแสนฟินไว้เพียงเท่านี้ค่ะ
ฝากติดตามกันต่อพาร์ทสุดท้าย พาร์ท 4 (พาเที่ยวปูซาน) ด้วยนะค้าาา
สำหรับวันนี้ลาไปกัน อันย๊องงงง! (^_^)/~

(ตามอีฟเที่ยวปูซานพาร์ท 4 ได้ที่นี่ค่ะ > [Korea Winter 2016] -Part 4-)