ต่อค่ะ ไปเที่ยวเกาหลีกันต่อค่ะ!! มาถึงตอน 4 แล้วน้า ตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายแล้วค่ะ (งืออ.. เวลาผ่านไปเร็วจัง ยังอยากอยู่อีกนานๆ) ตอนนี้เราจะไปตะลุยเมืองที่เค้าว่ากันว่ามีแต่หนุ่มหล่อๆ เมืองที่มีทะเลสวยๆ เมืองนั้นก็คือ ~ปูซาน~ ค่าาา ^o^
ไป ไปเที่ยวปูซานกัน!!~~
(ตอน1-2 เที่ยวในโซล > [Korea Winter 2016] -Part 1- | [Korea Winter 2016] -Part 2- )
(ตอน3 เที่ยวที่อินชอน-ซงโด > [Korea Winter 2016] -Part 3- )
★*˛. Day 8˛.*★
ตามแพลนแล้ว เราจะออกเดินทางไปปูซานกันแต่เช้าเลยค่ะ แต่ แต่ แต่!! เกิดเหตุอันไม่คาดคิดขึ้นค่ะ ㅠ.ㅠ อีฟทำพาสปอร์ตหายค่ะ! ฮืออออ.. ตั้งแต่เที่ยวต่างประเทศมาหลายทีก็ไม่เค้ย ไม่เคยจะพลาดแบบนี้ อะไรหายก็ไม่ว่า นี่พาสปอร์ตอีก จะไปปูซานออกตั๋ว KTX ก็ต้องใช้พาสปอร์ตอีก แถมยังมารู้ตัวว่าหายช่วงก่อนปีใหม่ด้วย สถานทูตฯ ก็มาปิดทำงานอีก!! ดังนั้นก็เลยต้องรอวันทำการซึ่งก็คือเช้าวันจันทร์นี้เองค่ะ ไปทำพาสปอร์ตชั่วคราวเพื่อใช้เป็นเอกสารยืนยันตัว-เอกสารเดินทางกลับไทยกันก่อน แพลนก็เลยเลทออกไปโดยฉะนี้ ㅠㅅㅠ
(อีฟเขียนวิธีการทำพาสปอร์ตชั่วคราวที่สถานทูตฯ โซลไว้ที่นี่ค่ะ > พาสปอร์ตหายที่เกาหลี ทำอย่างไรดี?)

หลังจากได้พาสปอร์ตชั่วคราวมาแล้ว ก็รีบกลับมาเช็คเอ้าท์ ฝากกระเป๋าที่ Raon Baggage Storage แล้วก็ไป Seoul Station กันค่ะ
ไปปูซานครั้งนี้อีฟจะเดินทางโดยรถไฟด่วน KTX ค่ะ ใช้เวลาประมาณเกือบๆ 3 ชั่วโมง (ถือว่าเร็วสุดในการเดินทางแบบรถค่ะ เร็วกว่านี้ก็เครื่องบินเนอะ แต่งบเราไม่ถึง >.<) ปกติตั๋ว KTX จากโซลไปปูซานจะตกขาละ 59,800 วอน (ประมาณ 1,800 บาท)
แต่! ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ เค้าจะมีบัตรชื่อ KORAIL PASS (KR Pass) ซึ่งก็คือบัตรเหมาจ่าย 1 วัน 3 วัน 5 วัน 7 วัน แล้วแต่เราเลือก เช่น ถ้าเราเหมาจ่าย 3 วัน.. ในช่วง 3 วันนี้ เราจะนั่งรถไฟไปเมืองไหนก็ได้ค่ะ ออกตั๋วกี่รอบก็ได้ อันลิมิเตท ซึ่งจะคุ้มและถูกกว่ามากค่ะ (ยิ่งไปหลายเมืองยิ่งคุ้ม และยิ่งไปหลายคนก็ยิ่งคุ้มอีกค่ะ เพราะบัตรจะราคาลดลงอีก)
เรทราคา KR Pass จะเป็นตามนี้ค่ะ (เรทราคาบัตรผู้ใหญ่)
1 วัน – 1คน 70,200วอน | 2-5คน 63,300วอน
3 วัน – 1คน 97,800วอน | 2-5คน 87,900วอน
5 วัน – 1คน 146,700วอน | 2-5คน 132,000วอน
7 วัน – 1คน 176,800วอน | 2-5คน 159,200วอน
*การจองบัตร KRPASS ต้องทำก่อนล่วงหน้าก่อนเดินทางนะคะ เพราะจะไปซื้อที่หน้าเค้าท์เตอร์ไม่ได้ค่ะ
*การจองบัตรต้องใช้บัตรเครดิตในการจอง (ยังไม่หักเงินตอนจอง จะหักตอนออกบัตรแล้ว) และต้องใช้บัตรเครดิตใบนั้นและเอกสารคอนเฟิร์มการจองแสดงในวันออกบัตรด้วยค่ะ
*จองบัตร KR Pass ล่วงหน้าได้ 180 วันก่อนเดินทาง จองได้ที่เวปนี้เลยค่ะ www.letskorail.com

นำเอกสารการจอง+พาสปอร์ต+บัตรเครดิตที่ใช้จองไปออกบัตร จะได้เป็นบัตร KR Pass หน้าตาแบบนี้ค่ะ
**เก็บบัตรนี้ไว้ให้ดีนะคะ เพราะบัตรนี้จะไว้ใช้ออกตั๋วรถไฟทุกครั้งที่เราเดินทางค่ะ KR Pass หายแล้วออกใหม่ไม่ได้ค่ะ
ได้ KR Pass มาแล้วก็ใช้บัตรนี้ไปซื้อตั๋วเดินทางไปปูซานที่เค้าท์เตอร์ขายตั๋วเดินทางเลยค่ะ แค่ยื่นบัตร KR Pass และแจ้งปลายทางที่จะเดินทางไปได้เลยค่ะ พนักงานจะถามเวลาเดินทางที่ใกล้ที่สุด หรือ เราจะแจ้งเวลารถไฟที่เราอยากเดินทางได้เลยค่ะ

ออกตั๋วมาแล้ว หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ..
ก่อนเดินเข้าชานชาลา ให้ดูป้ายใหญ่ๆ ก่อนนะคะ ว่าเราจะต้องไปขึ้นรถไฟที่ชานชาลาเท่าไหร่ ดูจากเวลาออกเดินทางได้เลยค่ะ
จากตั๋ว KTX ออกเดินทาง 13.10 รถไฟหมายเลข 139 ต้องไปขึ้นที่ชานชาลาหมายเลข 6 ค่ะ
รถไฟมารอพร้อมแล้ว~~ ขึ้นรถให้ตรงหมายเลขตู้ และให้ขึ้นก่อนเวลานะคะ เพราะรถไฟออกตรงเวลาเป๊ะมาก 13.10 ปุ๊บ! รถเคลื่อนตัวออกจากชานชาลาเลยจ้า!!
**ก่อนลงมาชานชาลา จะมีร้านขายขนม/อาหารกล่องอยู่ สามารถซื้อมาทานในรถไฟได้ค่ะ (ราคาถูกกว่า)
**ในรถไฟมีอาหาร/ขนม/เครื่องดื่มเข็นมาขายค่ะ แต่ได้ข่าวว่าแพงอยู่
**ในรถไฟมีไวไฟฟรีค่ะ เน็ตแรงดีงามเลยทีเดียว
ถึงปูซานแล้วเราก็รีบบบ.. ตะลุยเที่ยวกันเลยค่ะ!
부산 송도해수욕장 & 스카이워크 : Busan Songdo Beach & Skywalk | เที่ยวหาดซงโดที่ปูซานตามรอยสามแฝด
พิกัด : ออกจากสถานี Jagalchi Station, exit2 แล้วเดินตรงข้ามถนน 1 ครั้งแล้วหันซ้าย เดินตรงต่อไปที่ป้ายรถเมล์ ขึ้นรถเมล์สาย 96 หรือ 71 หรือ 30 หรือ 26 หรือ 9-1 ก็ได้ค่ะ
– จะเลือกลงป้ายที่ 6 (암남동주민센터:อัมนัมดงจูมินเซ็นเตอร์) แล้วเดินต่อประมาณ 500 เมตรไปที่ซงโดสกายวอร์ค
– หรือลงป้ายที่ 8 (송도해수욕장:ซงโดแฮซูยกจัง) แล้วเดินข้ามถนนไปหาดซงโดได้เลยค่ะ
ซงโดสกายวอร์คจะเป็นสะพานเดินออกไปชมวิวหาด-ทะเลได้ค่ะ บรรยากาศดีและสวยมากๆ หันกลับมาจากสกายวอร์คจะมีลานหินใหญ่ๆ ให้ถ่ายรูปสวยๆ ด้วยค่ะ ถ้าจำไม่ผิดตรงนี้จะเป็นที่ถ่ายทำรายการหลายรายการเลยค่ะ เช่น we got married ของคู่ อีจงฮยอน CNBLUE กับ นักแสดงสาว กงซึงยอน ก็มาสวีทกันที่นี่ด้วยค่ะ
จากสกายวอร์คจะสามารถเดินไปที่หาดซงโดได้ค่ะ หาดนี้ปกติหน้าร้อนจะครึกครื้นกว่านี้ค่ะ เพราะเป็นหาดที่มีกิจกรรมทางน้ำให้เล่นหลายอย่างค่ะ รวมถึงเป็นสถานที่ถ่ายทำรายการ The Return of Superman ของสามแฝด แทฮัน มินกุ๊ก มันเซด้วยค่ะ
พระอาทิตย์เริ่มตกแล้ว เรารีบไปที่ต่อไปกันค่ะ (ทำเวลาสุดๆ >.<)
BIFF 광장 & 국제시장 : BIFF Square and Gukje Market
พิกัด : สถานี Jagalchi Station, exit7 เดินตรงมานิดเดียว เลี้ยวซ้ายเข้ามาเจอ BIFF Square แล้วถ้าตรงเข้าไปเรื่อยๆ จะเจอตลาดกุกเจค่ะ
เริ่มจาก BIFF Square ก่อนค่ะ ถนนนี้จะอารมณ์เหมือนมยองดง (เมียงดง) ที่โซลเลย ถ้าเทียบบ้านเราก็คงสยามสแควร์เนอะ เป็นย่านช้อปปิ้งที่มีช้อปเครื่องสำอางค์ เสื้อผ้า ร้านคาเฟ่ เยอะแยะเลยค่ะ แต่คนจะน้อยกว่ามยองดงมาก >.< ตอนอีฟไปเป็นช่วงหลังวันคริสตมาส ก็เลยยังมีการจัดไฟสวยๆ อยู่ค่ะ
เดินลึกไปเข้านิดนึง จะเจอโซนของกิน มีของกิน(ุจุกจิก)เยอะมากกกก .. แต่ที่ห้ามพลาดเลยถ้ามาปูซานต้องลองชิมอันนี้ให้ได้นะคะ ขนมโฮต๊อก (호떡) ค่ะ เพราะโฮต๊อกที่ปูซานจะแตกต่างจากที่อื่นคือหลังจากทอดเสร็จแล้ว เค้าจะผ่ากลางโฮต๊อก แล้วตักพวกเมล็ดธัญพืชต่างๆ ใส่เข้าไปค่ะ (เช่นเมล็ดทานตะวัน, ถั่ว) ซึ่งที่นี่จะเรียก Seed Hotteok (씨앗호떡) ค่ะ
ตรงลาน biff นี่มีหลายร้านให้เลือกทานได้เลยค่ะ ราคาเท่ากันหมด ชิ้นละ 1,000 วอนค่ะ
เดินต่อเข้าไปอีกจะเจอตลาดใหญ่ๆ ซึ่งก็คือตลาดกุกเจ ตลาดนี้ต้องใช้เวลาเดินเยอะนิดนึงนะคะ ถ้าจะให้เดินทั่ว เพราะใหญ่มากกก ทุกซอกทุกซอยเป็นร้านค้าหมด.. อยากซื้ออะไร มาตลาดนี้มีทุกอย่างแน่นอน
เดินฝั่งบน(แผนที่) ไปเรียบร้อยแล้ว เรามาฝั่งล่าง(แผนที่) กันต่อค่ะ
자갈치시장 : ตลาดปลาจากัลชิ Jagalchi Market
พิกัด : สถานี Jagalchi Station, exit10 เดินออกมาแล้วเลี้ยวเข้าซอยขวามือ หรือข้ามถนนมากจาก biff square เดินตรงมาเรื่อยๆ จนสุด หันไปซ้ายมือจะเจออาคารใหญ่ๆ ซึ่งอาคารใหญ่นั้นล่ะค่ะ ตลาดปลา
เป็นตลาดปลาที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน เพราะจริงๆ ระหว่างทางเดินมาก็มีร้านขายปลาตามข้างทางเยอะแล้ว แต่ในอาคารนี่ก็เยอะอีกค่ะ
อาจุมม่าร้านต่างๆ ก็เรียกให้ซื้อกันใหญ่เลย
ทำเวลากันต่อค่ะ.. 555 ฟ้ามืดแล้ว ไปที่ต่อไปกันเถอะ!
광안리해수욕장 : สะพานกวางอัน Gwangalli Beach & Gwangan Bridge
พิกัด : สถานี Gwangan Station, exit 5 เดินตามแผนที่ประมาณ 1 km
เดินไกลขนาดนี้ พอมาถึงแล้วหายเหนื่อยเลยค่ะ .. คือสะพานสวยมากกกก ไฟสวยมากกก และบรรยากาศรอบๆ ก็ดีมากๆ ค่ะ สมแล้วที่เค้าให้ชื่อว่าเป็น Diamond Bridge แต่เสียอย่างเดียวเลยยย… ที่มาคนเดียว ไม่มีคู่ แง้ ㅠㅅㅠ
ก่อนจะดึกไปกว่านี้ ได้เวลาไปเช็คอินที่พักกันก่อนค่ะ เดี๋ยวเลยเวลาเช็คอินจะไม่มีที่นอนเอา >.<
ที่พักในปูซานทริปนี้อีฟพักที่ First Guesthouse, Haeundae ค่ะ
พิกัด : สถานี Haeundae Station, ทางออก 1 เดินตรงไปนิดเดียว เจอแยกใหญ่ เลี้ยวซ้ายจะเจออาควรขวามือ เดินเข้าไปในอาคานจะเจอลิฟท์ขึ้นไปชั้น 6 จะเป็นเกสท์เฮ้าส์ทั้งชั้นค่ะ
ห้องที่จองไว้จะเป็นแบบ dormitory ห้อง 6 เตียง (หญิงล้วน) ซึ่งที่เกสท์เฮ้าส์ที่นี่จะแยกชั้นหญิงล้วนไว้ที่ชั้น 7 ทั้งหมดค่ะ (ชั้น 6 จะเป็นห้องแบบชาย-หญิง, เค้าท์เตอร์เช็คอิน, แล้วก็ครัวใหญ่ไว้ทานอาหารเช้า)
ที่พักที่นี่สวย ใหม่ สะอาด ตกแต่งดูแพง และดูดีมากๆค่ะ ^.^ ราคาเตียงที่อีฟจองที่นี่ คืนละ 26,000 วอนค่ะ หน้าตาห้องที่นอนคืนนี้.. 6 เตียง แต่นอนคนเดียว สบายยยยแฮ ฮิฮิ
มาดูรูปเกสท์เฮ้าส์กันแบบเจาะลึกกันค่ะ .. คือปลื้มปริ่มกันที่นี่มาก เลยถ่ายรูปมาเยอะเลย อยากจะนำเสนอออ >.< (รายละเอียดต่างๆ อธิบายอยู่ใต้รูปนะคะ)

★*˛. Day 9˛.*★
ทานอาหารเช้าที่เกสท์เฮ้ากันพอเป็นพิธีแล้ว.. เราไปทานอาหารเช้าเพิ่มกันอีกค่ะ อิอิ
고래사 해운대점 : โคแรซา Goraesa | ออมุกปูซานตามรอยสามแฝด
พิกัด : สถานี Haeundae station, ทางออก 5 แล้วเดินตรงมาประมาณ 100 เมตรถึงร้านค่ะ (ข้ามถนน 2 ที)
เดินมาจะเห็นออมุกเสียบไม้บะเร้อเท่ออยู่หน้าร้าน ไม่ต้องกลัวหลงเลย หาง่ายสุดๆ
มาปูซานก็ต้องมากินปูซานออมุก! (부산 어묵) หรือภาษาอังกฤษก็คือ Fish Cakes นั่นเองค่ะ
ออมุกส่วนผสมหลักทำจากเนื้อปลา เหมือนปลาเส้น หรือลูกชิ้นปลาบ้านเรา แต่เค้าจะทำเป็นรสชาติต่างๆ หลากหลายเลยค่ะ ใส่ผักหรือเนื้อสัตว์เข้าไปในแป้ง หรือจะเอามาใส่เป็นไส้อะไรแบบนี้ ดัดแปลงไปได้หลายแบบ หลายรสชาติเลยทีเดียว
เดินเข้าร้านไปจะมีออมุกหลากหลายรูปแบบให้เลือกซื้อทานค่ะ สามารถหยิบถาดมาเลือกก็ได้เต็มที่ แล้วค่อยไปจ่ายเงินที่เค้าท์เตอร์.. จากนั้นก็หาที่นั่ง เอาออมุกไปอุ่นที่ไมโครเวฟได้ และมีน้ำบริการค่ะ
**ที่นี่มีเมนูเป็นถ้วยให้ทานด้วยนะคะ พวกต๊อกบกกี ก๋วยเตี๋ยวออมุก สามารถสั่งที่เค้าท์เตอร์ได้เลยเช่นกันค่ะ
เมื่อท้องอิ่มแล้ว เราก็ไปเที่ยวกันค่ะ! ที่แรกในวันนี้เราก็ยังคงตามรอยเด็กๆ สามแฝดอีกตามเคย อิอิ ไปกันเล้ยยย..
오륙도 스카이워크 : โอรยุกโด สกายวอร์ค Oryukdo Skywalk | เดินสกายวอร์คชมวิวทะเลตามรอยสามแฝด
พิกัด : จากสถานี Kyungsung University–Pukyong National University Station, ทางออก 5 เดินออกสถานีแล้วหันหลังกลับเข้าไปซอยทางขวามือค่ะ เดินไปจนเจอป้ายรถเมล์ป้ายแรก รอรถเมล์สาย 27 หรือ 131 ก็ได้ค่ะ ลงป้ายที่ 12 (오륙도SK뷰후문:โอรยุกโด เอสเค บยูฮุมุน) จะเป็นสุดสายพอดี แล้วรถจะวนกลับทางเดิมค่ะ (ขากลับก็สามารถขึ้นได้ที่ป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้ามได้เลยค่ะ)
ลงป้ายรถเมล์ลงมาก็จะเห็นเป้าหมายของเราอยู่ไม่ไกลค่ะ ป้ายนี้นะคะ
ถึงแล้ว.. เป็นยังไงคะ สวยมั้ย? วิวสวยมากค่ะ ในภาพอาจจะเหมือนบรรยากาศดี แต่จริงๆ แล้ววันนั้นฝนตกปรอยๆ ทำให้อากาศหนาวสุดๆ ค่ะ แต่เรามาถึงนี่แล้ว ก็ต้องลุยกันเนอะ!
ฝั่งด้านหลังของทะเล จะเป็นภูเขาค่ะ มีทางให้เดินขึ้นเขาได้ ปกติคนเกาหลีเค้าชอบเดินเขากันเนอะ แต่เราไม่ไป 555 แค่ถ่ายรูปมาก็พอแล่วววว
แล้วเราก็เดินไปที่สกายวอร์คกันค่ะ .. ท่ามกลางฝนปรอยๆ หนาวแค่ไหนก็ต้องสู้! เปียกแค่ไหนก็ต้องไป! ฮึบๆๆ!
ขึ้นมาถึงตรงส่วนของสกายวอร์คแล้วค่ะ .. แต่! เค้าปิดไม่ให้เข้า แง้ !! ㅠ_ㅠ เพราะสภาพอากาศไม่ดี ฝนตก หรือ หิมะตกจะไม่เปิดให้เข้าไปเดินค่ะ เพราะตรงสกายวอร์คจะเป็นกระจกใส เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย.. ก็เลยได้แต่รูปถ่ายจากข้างนอกเข้าไปเช่นนี้..
เดินเล่นพอทั่วแล้ว.. ก็เดินกลับไปที่ป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้ามจากป้ายที่ลงค่ะ ไปตะลุยเที่ยวต่อที่ต่อไปกัน
부산 감천문화마을 : หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน Busan Gamcheon Culture Village | ซานโตรินี่เกาหลี
พิกัด : ส่วนใหญ่ตามรีวิวต่างๆ จะแนะนำให้ลงที่สถานี Toseong Station, ทางออก 6 แล้วเดินไปป้ายรถเมล์หน้า Busan Cancer Center ขึ้นรถเมล์สาย 1-1 หรือ 2-2 กัน ซึ่งตรงนี้จะมีคนรอขึ้นกันเยอะมากค่ะ อาจจะไม่ได้นั่ง เพราะรถเมล์คันเล็ก แถมต้องไต่เขาทางชั้นอีก อีฟก็เลยจะมาแนะนำอีกทางนึงก็คือ
สถานี Jagalchi Station, ทางออก 3 แล้วเดินหันหลังกลับมา ข้ามถนน แล้วเลี้ยวซ้าย ป้ายรถเมล์จะอยู่ตรงข้ามร้านขายยา และ GS 25 ค่ะ ขึ้นสาย 1-1 หรือ 2-2 เหมือนกัน ขึ้นตรงนี้รถว่างแน่นอน ได้นั่งสบายๆ ^^ นั่งรถเมล์ 11 ป้าย ประมาณ 15 นาทีก็ถึงค่ะ ลงป้ายที่คนลงเยอะๆ เลยไม่ผิดที่แน่นอน
รถตรงป้ายนี้นะคะ.. ได้นั่งแน่นอน อิอิ
นั่งรถเมล์ขึ้นเขา โค้งไป โค้งมาจนเกือบเวียนหัวก็.. ถึงแล้วค่า.. เดินลงรถเมล์ตามๆ กันไปปุ๊ป ก็จะต้องร้องโอ้โห… จุดแรกก็สวยแล้วอ่ะ ชัดภาพสิคะ รออะไร!
ก่อนเข้าไปเดินหลงในหมู่บ้านนั้น แวะซื้อแผนที่ก่อนค่ะ จะมีจุดขายอยู่ข้างๆ ทางเข้าเลย ราคาประมาณ 1,000-2,000 วอนนี่แหละค่ะ (ไม่แน่ใจ ลืมไปแล่ว) ในแผนที่จะมีจุดไว้ให้เราแสตมป์ตามที่ต่างๆ ด้วยค่ะ ถ้าได้แสตมป์ครบก็จะได้โปสการ์ดมาใบนึง (อีฟเดินหลงหนักมาก และ หาจุดแสตมป์ไม่เจอ แต่สุดท้ายเค้าก็ให้โปสการ์ดมาอยู่ดีค่ะ >.<)
พร้อมแล้วเราก็ไปหลงกันค่ะ! 555 ทางค่อนข้างซับซ้อน เพราะมาตรอกซอกซอยเยอะค่ะ อาจจะนอกเส้นทางกันไปบ้าง แต่ก็คิดว่าเดินทั่วจุดหลักๆ ทั้งหมดอยู่ค่ะ อีฟเอารูปตำแหน่งที่สวยๆ มาฝาก.. ไปดูกันเล้ยยย
เดินๆ หลงๆ กันอยู่ยาวนานมากค่ะ ได้เวลาออกจากที่นี่ไปหาอะไรทานกัน นั่งรถเมล์ยาวๆ กลับไปที่แฮอุนแด ใกล้ๆ กับที่พักของเรากันค่ะ เราจะไปทานมื้อเย็นที่นี่กัน
왕돼지국밥 : วังทเวจีกุกบับ Wang Dwaeji Gukbap | ข้าวต้มหมูปูซาน
พิกัด : สถานี Haeundae station, ทางออก 1 เดินตรงไปจนแยกที่ 2 แล้วเลี้ยวซ้าย เดินต่ออีกประมาณ 150 เมตร ร้านอยู่ขวามือค่ะ
หน้าร้านจะเป็นสีเหลืองๆ เด่นชัดแบบนี้เลย
อาหารขึ้นชื่อของปูซานอีกอย่างนึงที่ถ้ามาแล้ว”ต้อง”กินก็คือ ทเวจีกุกบับ (돼지국밥)
돼지 = หมู / 국 = ซุป / 밥 = ข้าว
รวมเป็น ข้าวต้มหมูนั่นเอง 555 ถ้าเดินในย่านแฮอุนแดจะเจอร้านทเวจีกุกบับเยอะมากค่ะ อีฟก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าร้านไหนคือที่สุด แต่ว่าด้วยความติ่ง CNBLUE เค้าบอกว่า อีจงฮยอนมือกีต้าร์ กับ คังมินฮยอกมือกลองมาทานกันที่นี่ แถมยังเป็นร้านโปรดของจงฮยอนด้วย ก็เลยเลือกมาร้านนี้ค่ะ >.< ความติ่งล้วนๆ สินะ
เข้าร้านหาโต๊ะแล้วก็สั่งอีโมนิมได้เลยค่ะ ทเวจีกุกบับ ฮานา จูเซโย.. (1 ที่ 6,000วอน)
มาแล้วค่ะข้าวต้มหมูร้อนๆ วิธีทานก็คือ ให้เอากุ้งในถ้วยเล็กๆ มาใส่ ทีละนิด แล้วก็ชิมๆ จนรสชาติเป็นที่พอใจ
แล้วก็เอายำผักสีเขียวๆ มาใส่ลงไปในข้าวต้ม แล้วก็ทานค่ะ แกล้มกิมจิด้วยบ้าง..
ทานอิ่มแล้วก็เดินเล่นตามถนนแฮอุนแดไปจนถึงหาดค่ะ ระหว่างทางก็จะมีซอยนึงเป็นตลาด มีร้านค้า ร้านอาหารเยอะแยะเลยค่ะ (รวมถึงร้านทเวจีกุกบับก็เยอะเช่นกัน)
ข้ามถนนไปฝั่งหาดแฮอุนแดกันค่ะ.. กลางคืนแล้วยังมีคนเดินเล่นกันอยู่เยอะแยะเลย แล้วก็มีเด็กๆ วัยรุ่นมาเปิดหมวกร้องเพลงด้วยค่ะ บรรยากาศดีมาก.. แต่เวลาเรามีน้อย ถ้าได้มาตอนกลางวันด้วยก็น่าจะดีเนอะ >.<
แล้วก็กลับที่พักไปนวดเท้า และ เข้านอน(ไว) ค่ะ เพราะพรุ่งนี้เราต้องตื่นแต่เช้ามืดกลับโซลกัน ㅠㅅㅠ ยังไม่อยากกลับเลย งือๆ
★*˛. Day 10˛.*★
วันสุดท้ายของทริปก็มาถึง.. เวลาผ่านไปไวมากเลย ยังไม่อยากกลับเลยค่ะ (นานเท่าไหร่ก็ไม่พอสินะ)
ตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อไปขึ้น KTX กลับโซลกันค่ะ ณ Busan Station ตั้งแต่ฟ้ายังมืดสนิท >.<
ขึ้นบันไดเลื่อนไปปุ๊ป ก็ต้องยอมแพ้กับไออุ่นหอมๆ นี้ค่ะ .. ปูซานออมุก! ก่อนกลับซักไม้สองไม้ละกันเนอะ >.<
เลือกหยิบได้เลยค่ะ 2,000 วอนทุกไม้ ทานไป ซดซุปอุ่นๆ ไป ดีงามมมม
เรียบร้อยก็เข้าไปจองตั๋วรถค่ะ *อย่าลืมเอาบัตร KR Pass มาใช้นะคะ* .. ได้ตั๋วมาแล้ว รอบ 7.30 ไปถึงโซล 10.05 ตามแพลนสบายๆ
เก็บบรรยากาศสถานีปูซานมาให้ชมกัน ^o^
ได้เวลาขึ้นรถไฟ KTX กลับโซลแล้วค่ะ.. บ้ายบายปูซาน หวังว่าจะมีโอกาสได้มาเที่ยวที่นี่อีกนะ ~~
และก็เก็บบรรยากาศในรถไฟ KTX มาอีก.. ที่นั่งสวย กว้าง สะอาด และนั่งสบายมากๆ ค่ะ
มาถึงโซลแล้วก็แวะ Lotte Mart ซื้อขนม-ของฝากกลับไทยค่ะ ซื้อเสร็จแพคใส่กล่องพร้อมโหลด (ทำได้เองที่ด้านหลังเค้าท์เตอร์ชำระเงินเลยค่ะ)
เรียบร้อยแล้วก็นั่งรถไฟฟ้ากลับสถานีฮงแดไปรับกระเป๋าที่ฝากไว้, จัดกระเป๋า, แปลงร่างเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมเข้าเมืองร้อน, แล้วก็ไปสนามบินกันเลยค่ะ!
Air Asia X เช็คอิน/ดรอปกระเป๋าที่แถว D ค่ะ ที่อินชอนแถวเช็คอินกับแถวดรอปกระเป๋ายาวพอกันเลย เผื่อเวลามาด้วยนะคะ
ส่วนของอีฟ เรื่องเยอะกว่าใคร เพราะพาสปอร์ตหาย ทางพนักงานต้องทำเรื่องเปลี่ยนแปลงหมายเลขพาสปอร์ตกันใหม่ เลยต้องใช้เวลาตรงนี้เพิ่มอีกนิด รวมไปถึงที่ตม. ด้วย ทางตม. เค้าจะใช้เวลาในการเช็คชื่อของเราจากวันที่เข้าประเทศมาด้วยค่ะ แต่ทั้งหมดนี้ก็ไม่มีอะไรน่ากลัวค่ะ แค่ใช้เวลานานกว่าคนอื่นนิดหน่อย ^^
มาถึงเกทแล้วค่ะ พร้อมกลับ.. ทั้งๆ ที่ในใจยังไม่อยากกลับเลย..
ก่อนกลับ ใช้เหรียญให้เหลือน้อยที่สุด ได้โดนัทของดังกินส์มาทานรองท้องอีก 2 ชิ้น.. อร่อยและเนื้อแป้งไม่เหมือนที่ไทยค่ะ
บอร์ดดิ้งพาสพร้อม พาสปอร์ตกระดาษก็พร้อม แฮ่ๆ กลับบ้านเราาาา
และก็ถึงไทยโดยสวัสดิภาพ ~
ครั้งแรกที่ได้ไปเที่ยวต่างเมืองไกลๆ ในเกาหลีด้วยตัวเอง คนเดียว ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ
การไปเที่ยวด้วยตัวเองมันอาจจะเหนื่อยและใช้เวลาเยอะในการศึกษา การแพลน รวมถึงการหลง แต่ทั้งหมดนี้ก็ทำให้เราได้กล้าที่จะทำอะไรเยอะขึ้นเลยค่ะ ที่สำคัญต้องไม่กลัวค่ะ ทุกๆ คนรอบข้างพร้อมที่จะช่วยเราเสมอ ถ้าได้ลองซักครั้งนึงแล้วจะติดใจค่ะ!!
แล้วพบกันใหม่เกาหลี.. แล้วพบกันใหม่ค่ะทุกๆ คน! ♡♡♡
You must be logged in to post a comment.